( VOVworld )-
เนินเขาหมก โจว์สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑,๐๕๐ เมตร กว้าง ๘๐ กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้า ๑,๖๐๐ เฮกต้าร์ จึงได้รับขนานนามว่า เมืองดาลัตแห่งเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือหรือเขตเตยบั๊ก ที่นี่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายตลอดปีและมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดของเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือจนกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ
ฤดูดอกผักกาดขาวที่หมก โจว์
เส้นทางจากฮานอยไปยังหมก โจว์ประมาณ ๒๐๐ กิโลเมตรถูกขยายกว้างขึ้น ผิวถนนเรียบทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น บวกกับเป็นผืนดินที่สงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์และมีความสวยสดงดงามของธรรมชาติทำให้หมกโจว์กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมักจะเลือกไปเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลตรุษเต็ตตามประเพณีของเวียดนาม คุณฝุ่ง ถิ่ ลิว ลี รองหัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรมของอำเภอหมก โจว์เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยอะมากเต็มโรงแรมและเกสเฮาส์ คุณฝุ่ง ถิ่ ลิว ลี กล่าวว่า “ อากาศที่หมก โจว์แตกต่างกับพื้นที่อื่นๆ โดยมี ๔ ฤดูได้แก่ วสันต์ คีมหันต์ ฤดูไม้ผลัดใบและเหมันต์ฤดู ในหนึ่งวันอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ ๑๘-๒๒องศาเซลเซียส อากาศเย็นสบายไม่หนาวหรือร้อนจึงเหมาะกับการสวมเสื้อแจ็คเก็ตหรือสตรีผูกผ้าพันคอบางๆเพื่อเก็บภาพเป็นที่ระลึก หมกโจว์เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและเป็นที่รู้จักแพร่หลายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความได้เปรียบของหมก โจว์อยู่ตรงที่ศักยภาพการท่องเที่ยว ”
เสน่ห์ของหมก โจว์อยู่ตรงที่มีดอกไม้นานาพันธุ์ ซึ่งยามวันต์ ดอกพรุนและดอกท้อสีขาวจะบานสะพรั่งอวดสีสันบริสุทธิ์ทั่วบริเวณป่า ดอกพรุนหมก โจว์สีขาวบริสุทธิ์บานสะพรั่งช่วงปลายปีเลยถึงต้นปีถัดไปท่ามกลางอากาศหนาวจนชาได้กลายเป็นไฮไลท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมและเก็บภาพสวยๆ ส่วนไร่ชาเขียวสดชื่นตามเนินเขาต่างๆยามฤดูหนาวทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกสบายๆและปล่อยภวังค์ไปกับธรรมชาติทิ้งความแออัดและความเหนื่อยล้าไว้กับตัวเมือง ธรรมชาติในหมกโจว์สวยทั้งสี่ฤดู แต่ละฤดูจะมีดอกไม้ประจำ นายฝ่าม มินห์ เจี๊ยน ไกด์นำเที่ยวของบริษัทนำเที่ยวแค้ง ซินห์เปิดเผยว่า “ สำหรับผมนั้น หมกโจว์สวยทั้งสี่ฤดู เหมันต์เป็นฤดูของดอกหยา กวี่ ตามยอดเนินต่างๆสวยงามไปด้วยดอกหยา กวี่สีเหลืองดูเหมือนพรมสีเหลือง วสันต์ฤดูแห่งดอกเหมย ดอกพรุนและดอกท้ออวดสีสันสดสวยฉุดฉาด เดือนมีนาคมดอกกาหลงบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณ ส่วนคีมหันต์ฤดูเป็นฤดูออกลูก เดินทอดน่องเที่ยวเยือนหมู่บ้านของชนเผ่าม้งจะได้ชมลูกพรุนและสามารถเด็ดมันได้ ฤดูไม้ผลัดใบเป็นฤดูแห่งเทศกาลต่างๆเช่น เทศกาลเอกราชในวันที่ ๒ กันยายน ซึ่งเป็นเทศกาลใหญ่ที่สุดของชนเผ่าม้ง และเทศกาลตรุษเต็ตประเพณีตั้งแต่เดือน ๑๑ ตามจันทรคติเป็นเวลากว่า ๑ เดือน เมื่อไปเยือนหมก โจว์ในฤดูไม้ผลัดใบ นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับประเพณีดั้งเดิมของชนเผ่าอีกด้วย ”
ดอกกาหลงอวดสีขาวบานสะพรั่งทั่วบริเวณป่า
ที่หมก โจว์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรราชาติที่มหัศจรรย์กำลังรอคอยนักท่องเที่ยวมาค้นหาเช่น ถ้ำเซินหมก เฮืองหรือถ้ำค้างคาวที่ยังคงความเป็นธรรมชาติโดยแท้ โดยมีหินงอกหินย้อยและมูลี่หินดั้งเดิม ซึ่งเป็นผลงานธรรมชาติศิลปะหิน น้ำตกหมู่บ้านหวัดหรือน้ำตกหยาย เอี๊ยม สายน้ำขาวบริสุทธิ์และนิ่มเหมือนเสื้อหยาย เอี๊ยมของสตรีชนเผ่าไท ป่าสนของหมู่บ้านอ๊างเป็นทิวต้นสนตรงสะท้อนเงาลงบทผิวน้ำ อาหารของหมก โจว์ มีหลายอย่างให้เลือก แต่ที่เป็นอาหารเด็ดคือ ผัดเนื้อโคขุนซึ่งมีรสหวานอร่อยของลูกโคจากฟาร์มเลี้ยงโคนมหมก โจว์ ผักกาดเขียวที่ปลอดสารพิษของชนเผ่าม้งหรืออาหารที่ทำจากเผือกที่มีรสชาติมันและปลูกในที่เนินเขา ทั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เลี้ยงและปลูกตลอดจนแปรรูปถูกหลักสุขอนามัย ความสวยงามของธรรมชาติและอาหารอร่อยปลอดสารพิเษคือความได้เปรียบของหมก โจว์ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และเทศกาลต่างๆ คุณฝุ่ง ถิ่ ลิว ลี รองหัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรมของอำเภอ โหมก โจว์เปิดเผยว่า “ หลายปีที่ผ่านมา หมกโจว์ถูกระบุในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวของเขตตะวันตกเฉียงเหนือ หมกโจว์มีผลิตภัณฑ์ชาและนมที่มีชื่อเสียง อีกทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตท่องเที่ยวแห่งชาติสิ่งที่สำคัญคือ หมก โจว์เป็นประตูของจังหวัดเซินลา มีภูมิประเทศที่สวยงาม อากาศดีๆและหลากหลายชนเผ่า โดยเฉพาะอยู่ไม่ไกลจากฮานอยมากนัก หมกโจว์เป็นผืนดินที่ชาวบ้านมีอัธยาศัยดีต่อแขกที่มาเยือน เป็นเขตนิเวศที่หลากหลายและอากาศเย็นสบาย ”
บรรยากาศที่เงียบสงบที่มีทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้สี่ฤดู ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ อาหารอร่อยทำให้หมกโจว์กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมักจะไปเยือนในวันหยุด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ที่จะมาถึง .
ไร่ชารูปหัวใจ
ทุ่งดอกผักกาด
ยำดอกกาหลง
อาหารอร่อยๆหลายอย่างให้เลือก