อ่าวฮาลอง |
เมื่อพูดถึงจังหวัดกว๋างนิงห์แล้วทุกคนคงต้องนึกถึงชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกของเวียดนามคืออ่าวฮาลอง แต่อันที่จริงแล้วที่จังหวัดกว๋างนิงห์นี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายๆแห่งที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศอย่างเช่น โบราณสถานภูเอียนตื๋อ วิหารเกื๋อโอง เกาะก๊าตบ่า เป็นต้น ซึ่งทัศนียภาพที่สวยงามต่างๆในจังหวัดกว๋างนิงห์ยังได้สร้างอารมณ์สุนทรีย์ให้นักดนตรีประพันธ์บทเพลงที่ไพเราะหลายเพลงและก็มีเพลงที่ได้รับความนิยมจากผู้ฟังจนกลายเป็นเพลงที่คุ้นเคยของคนทุกรุ่น
วัดด่งบนยอดภูเอียนตื๋อ |
หากกล่าวถึงภูเอียนตื๋อเราก็อยากเล่าประวัติย่อๆให้ท่านที่ยังไม่รู้ได้รับทราบกันนะคะ โดย เขตโบราณสถานประวัติศาสตร์และทัศนียภาพภูเอียนตื๋อมีพื้นที่กว่า ๒๐ ตารางกิโลเมตร ที่มีวัดวาอารามและสถูปเจดีย์ที่มีอายุหลายร้อยปีมากมายหลายแห่งที่ตั้งอยู่กลางเขตป่าทึบและสูงกว่า๑,๐๖๘ เมตรจากระดับน้ำทะเล ภูเอียนตื๋อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของนักบวชที่มีชื่อเสียงหลายรูปสมัยราชวงศ์หลีและเจิ่นจนสู่พระนิพพาน เช่น พระฝ่ายกรรมฐานเหี่ยนกวางและด๋าวเวินในสมัยรัชกาลของกษัตริย์เจิ่นเญินตงและแท้งตง โดยเฉพาะกษัตริย์เจิ่นเญินตงที่สละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสเพื่อเสด็จออกบรรชาที่ภูแห่งนี้เป็นเวลา ๑๐ ปีและทรงก่อตั้งพุทธศาสนานิกายจุ๊กเลิมเวียดนาม ปัจจุบัน ทางขึ้นยอดภูเอียนตื๋อที่มีวัดด่งหรือวัดทองแดงตั้งอยู่สะดวกสบายกว่าก่อนมาก เราสามารถขึ้นได้สองทางได้แก่ นั่งกระเช้าไฟฟ้าไปถึงยอดเอียนตื๋อคือใช้เวลา ๒ ชั่วโมง หรือเดินขึ้นบันไดแต่อาจจะใช้เวลานานกว่านี้ ระหว่างทางขึ้นวัดด่งหรือวัดทองแดงบนยอดภูเอียนตื๋อจะมีวัดหลายๆแห่งไม่ว่าจะเป็นวัดฮวาเอียน หมดม้าย บ๋าวส่ายและเวินเตียน ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะจุดธูปขอพรและพักเพื่อคลายความเหนื่อล้าที่ต้องเดินขึ้นบันไดเป็นระยะทางยาวกว่า ๑ พันเมตร พอขึ้นถึงวัดด่งแล้ว พวกเราไม่ว่าจะเป็นพุทธศาสนิกชนหรือนักท่องเที่ยวต่างรู้สึกมีความอิ่มเอิบใจเสมือนได้ก้าวเข้าดินแดนแห่งเทพเจ้าและพระอริยะสงฆ์ที่กำลังเล่นหมากรุกไปพลางคุยเรื่องพระคำภีร์และเผยแพร่ศาสนาสู่มวลมนุษย์
อนุสาวรีย์ที่แหลม ซาหวี |
วันนี้เราอยากพาท่านไปเที่ยวแหลม ซา หวี กันโดยสถานที่แห่งนี้ยังมีชื่อท้องถิ่นคือ แหลม ก๊อต ซึ่งตั้งอยู่ที่พิกัด ๒๑ องศา ๒๙ นาทีและ๓๓ วินาทีเหนือ และ๑๐๘ องศา ๔ นาทีและ ๕ วินาทีตะวันออก แขวงจ่า โก๋ เมือง ม้อง ก๊าย จังหวัดกว๋าง นิงห์จะเป็นจุดแรกที่เขียนบนแผนที่ประเทศก่อนแห่งอื่น ตามภาษาเวียดนาม ซา มีความหมายว่า ทราย และหวี คือ หาง ซึ่งที่มาของชื่อ ซาหวีเนื่องจากที่นี่มีหาดทรายยาวและแคบคล้ายหางมังกรที่มักจะโผล่ขึ้นมาเมื่อน้ำทะเลลดลง และยังคงอยู่อย่างมั่นคงสง่างามคู่กับดินฟ้าแม้จะโดนพายุและลมมรสุมต่างๆก็ตาม
ที่แหลมมีแผ่นป้ายสีฟ้ารูปยอดต้นสนซามู ๓ ยอด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า นี่คือจุดเหนือสุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ บนแผ่นโล่ได้จารึกคำกลอนของกวีโต๊ หิวที่มีชื่อเสียงของเวียดนามที่มีความว่า “จากป่าสนจ่า โก๋ลงสู่ป่าโกงกางก่าเมา” ซึ่งหมายถึงจากจุดเหนือสุดภาคตะวันออกของประเทศลงสู่จุดใต้สุดภาคใต้ ทำให้ทุกคนที่มีโอกาสมาเยือนต่างก็มีความซาบซึ้งใจ
“วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาเที่ยวแหลมซาหวี จุดเหนือสุดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเมื่อยืนอยู่ที่นี่ก็รู้สึกมีความสุขและภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้นหากเป็นผืนดินด่านหน้าที่ยืนยันอธิปไตยของประเทศอีกด้วย”
นักท่องเที่ยวที่มาถึงแหลมซาหวีชอบยืนถ่ายรูปที่หน้าแผ่นป้ายสีฟ้ารูปยอดต้นสนซามู ๓ ยอด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า นี่คือจุดเหนือสุดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศและหลักพรมแดนที่อีกด้านเขียนว่า Trang Vi 0km อีกด้านเขียนว่า Tra Co - Mui Ca Mau 3260km
จุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาถ่ายรูปเมื่อมาเที่ยวซาหวี |
มองไกลออกไปท่านก็สามารถมองเห็นรูปจันทร์เสี้ยวของชายทะเลจ่าโก๋ มีปากน้ำชายแดนบั๊ก ลวน หลักพรมแดนหมายเลข ๑๓๗๗ และ ๑๓๗๘ ซึ่งเป็นหลักพรมแดน ๒ หลักสุดท้ายตามแนวชายแดนระหว่างเวียดนามกับจีน ตรงข้ามคือ หมู่บ้าน ฉุ ซาน ตัวเมืองเจียง ผิง นคร ตุง ชิง ของจีน ทางขวามือไกลออกไปคือ แหลมแบกลอง ท่าเรือ ฝางเฉิง มณฑลกวางตุ้งของจีน แหลมซาหวีเป็นจุดแรกที่รับแสงอาทิตย์ของวันใหม่ในภาคเหนือเวียดนามดังนั้นก็เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งนี้แล้วก็รู้สึกถึงความรับผิดชอบของตนเองในการมีส่วนร่วมรักษาอธิปไตยของประเทศในฐานะเป็นพลเมืองเวียดนาม นอกจากนั้นที่แหลมซาหวียังมีจุดหนึ่งที่เรียกว่า มุ้ยหงอก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของเขตริมฝั่งทะเลเวียดนามที่ทอดยาวลงไปทางใต้รวมกว่า3พันกิโลเมตรแล้วไปสิ้นสุดที่เมือง ฮาเตียน จังหวัดเกียนยาง
ปัจจุบัน แหลม ซาหวี ได้เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทางการท้องถิ่นได้ลงทุนยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและวางยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวตามแนวทาง “เป็นมิตร-สะดวก-น่าไว้วางใจ” คุณแทงเหวี่ยน ผู้อำนวยการบริษัทท่องเที่ยวในเมืองม๊องก๊ายเผยว่า“การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวได้อำนวยเงื่อนไขที่สะดวกให้พวกเราจัดรายการทัวร์ต่างๆโดยนับตั้งแต่ปี2014มาจนถึงปัจจุบัน จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและพวกเขาก็รู้สึกพอใจกับผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวต่างๆของเรา”
เป็นอันว่าถ้าหากท่านที่มีแผนการไปเที่ยวจังหวัดกว๋างนิงห์ของเวียดนามแล้วมีเวลาเที่ยวนานเราก็แนะนำให้ไปเที่ยวแหลมซาหวี ที่เมืองม๊องก๊าย เชื่อว่าท่านจะได้รับประสบการณ์อีกแบบในทริปเที่ยวเวียดนามเหนือ
เรือสำราญล่องอ่าวฮาลอง |
สำหรับท่านที่ยังไม่เคยมากว๋างนิงห์โดยเฉพาะอ่าวฮาลองก็ขอแนะนำให้วางแผนมาเที่ยวเหมือนกันนะคะเพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กับฮานอยและไฮฟอง ซึ่งอ่าวฮาลองหรือคนไทยมักจะคุ้นเคยกับคำว่า ฮาลองเบย์ คือสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดของเวียดนาม โดยการเที่ยวฮาลองเบย์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงที่คลื่นลมกำลังสงบเหมาะกับการล่องเรือ เรือท่องเที่ยวในอ่าวฮาลอง ส่วนใหญ่เป็นเรือขนาดกลางมีห้องพักบนเรือ ส่วนหัวเรือทำเป็นรูปหัวมังกร แต่มีบางลำได้สร้างเป็นลักษณะของเรือใบย้อนยุค เมื่อเรือออกจากท่าไม่นานก็เข้าสู่ดินแดนแห่งความงดงามที่แต่งแต้มเติมเต็มด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่วางสลับเรียงรายดูแปลกตายิ่งนัก ซึ่งคล้ายกับทางอ่าวพังงาของประเทศไทย แต่อ่าวฮาลองของเรานั้นจะกว้างกว่ามาก
นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างชาวยุโรปหรือชาวอินโดนีเซียก็มีหลายคณะที่ชอบเที่ยวพักแรมบนเรือสำราญบนอ่าวฮาลองด้วย ซึ่งบรรยากาศน่าจะโรแมนติกมากๆที่ได้นอนกลางทะเล โดยเฉพาะถ้าได้ดื่มด่ำกับเพลงเพราะๆสักเพลงเกี่ยวกับทะเลก็น่าจะช่วยเพิ่ม อารมณ์ โรแมนติกได้นะครับ
นี่ก็เป็นเหตุผลที่เราเลือกเพลงเกี่ยวกับทะเลมาเปิดให้แฟนรายการของเราฟังในวันนี้ เพลงนี้ชื่อว่า ฟังเสียงกระซิบจากทะเล ประพันธ์โดยนักดนตรีเหงวียนเกื่อง จากการขับร้องของ ห่งญูง และก็เป็นเพลงปิดท้ายรายการเที่ยวเวียดนาม “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น” สำหรับวันนี้สวัสดี สุขสันต์วันปีใหม่2019.