 ถนนแทงเนียนที่กั้นระหว่างสระโห่เตยและสระจุกแบก |
ทะเลสาบโห่เตยเป็นสระน้ำธรรมชาติอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในตัวเมืองฮานอย อยู่ห่างจากย่านโบราณ36สายด้วยการขับรถประมาณ 10 นาที มีความผูกพันธ์กับประวัติศาสตร์พันปีของเมืองหลวง โดยตามข้อมูลในหนังสือประวัติศาสตร์ระบุว่า โห่เตย เป็นส่วนที่เหลือของสายน้ำสายหนึ่งจากแม่น้ำแดง ซึ่งเคยมีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น บึง ซากก๊าว สระ กิมงิว สระหลางบาก หรือสระเยิมด่าม เป็นต้น ซึ่งแต่ละชื่อมีตำนานที่ผูกพันกับที่มาของสระโห่เตย ถ้ามองจากมุมสูงทะเลสาปแห่งนี้มีรูปร่างเหมือนก้ามปูโดยทางทิศตะวันออกมีถนนแทงเนียนล้อมรอบและเป็นทางกั้นระหว่างสระโห่เตยกับสระจุ๊กแบก ส่วนมุมอื่นๆของสระล้อมรอบด้วยย่านชุมชน
เป็นเวลานานแล้วที่ทะเลสาบโห่เตยได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดมิได้ในวิถีชีวิตทางจิตใจของชาวฮานอยรวมทั้งของนักท่องเที่ยวเพราะที่นี่ไม่เพียงเเต่มีบรรยากาศที่แสนโรแมนติกด้วยสีสันแห่งดอกไม้ทุกฤดูกาลเท่านั้นหากสิ่งที่พิเศษที่ทำให้ทะเลสาปแห่งนี้มีความแตกต่างกับสระน้ำอื่นๆในฮานอยคือสีของน้ำที่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูและตามสภาพอากาศ แต่ที่ถือว่ามีความสดใสสวยงามมากที่สุดคือช่วงพระอาทิตย์ตกดินและเมื่อแสงไฟสลัวๆริมสระที่กระทบผิวน้ำ จนส่องประกายวิบวับ
ความงามที่เป็นเสน่ห์ของโห่เตยยังสะท้อนผ่านวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่รอบๆสระตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ที่ผู้คนเริ่มออกมาออกกำลังกายไปจนถึงช่วงพลบค่ำที่มีคนออกมาเดินทอดน่อง เป็นจุดนัดพบที่เพลิดเพลินสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือของครอบครัวที่อยากพาเด็กๆมาพักผ่อนคลายเคลียดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ นายเหงวียนตุ่งเลิม อาศัยที่เขตด๊งดากรุงฮานอยเผยว่า
“ผมมีความทรงจำหลายอย่างที่ผูกพันกับทะเลสาปแห่งนี้ โดยเฉพาะความทรงจำช่วงวัยหนุ่มสาวที่ความรักของเราก็มีความผูกพันกับโห่เตย ผมกับแฟนก็ได้มาเดินเล่นที่นี่แล้วคุยเรื่องชีวิตต่างๆ ที่นี่ยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารริมทางที่แสนอร่อยเช่นหอยลวก ปลาหมึกย่าง ซึ่งมีบางเวลาผมกับเพื่อนนั่งคุยกันที่นี่จนดึก สำหรับคนฮานอยทุกเพศทุกวัยโห่เตยเหมือนเป็นจุดหมายที่ใครๆก็ต้องมา”
 วัดเฉินก๊วก หนึ่งในวัดที่ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบโห่เตย |
สำหรับผู้ที่ชอบค้นคว้าวัฒนธรรมประวัติศาสตร์รอบๆโห่เตยก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น วิหาร เตยโห่ วัดหวองถิ วิหาร กว๊านแท้งและโบราณสถานอีกหลายสิบแห่ง โดยเฉพาะที่นี่มีวัดเฉินก๊วก ซึ่งถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเวียดนามด้วยอายุกว่า 1,500 ปี สักการะพระพุทธรูป ที่เดิมมีชื่อเรียกว่า “Khai Quoc” ลักษณะของวัดมีความวิจิตรงดงามมาก และสร้างตามขนบของแบบสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาทุกประการ ในสวนหลังวัดมีต้นโพธิ์ที่เมื่อปี 1959 ท่านRajendra Prasad นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ได้มอบต้นโพธิ์นี้ให้เป็นของขวัญแด่ทางวัดและเชื่อกันว่าต้นโพธิ์นี้แตกแขนงมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ที่เจ้าชาย สิทธัตถะ โคตรมะ ทรงประทับและตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนเป็นที่เลื่องลือดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญจากทั่วโลกให้มาที่นี่เพื่อสักการะ
“บรรยากาศของวัดวาอารามต่างๆที่โห่เตยนี้ทั้งสวยทั้งสงบร่มเย็น ทำให้ผู้คนที่มาสักการะรู้สึกจิตใจโปร่งใสผ่อนคลาย ซึ่งเราก็เห็นนักท่องเที่ยวหลายคณะได้มาเที่ยววัดด้วยแล้วพวกเขาก็ชื่นชอบบรรยากาศที่วัดเหมือนกัน”
ถ้าหากท่านอยากหลีกหนีจากบรรยากาศแออัดจอแจในเมืองก็ขอแนะนำไปผ่อนคลายที่ริมทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของฮานอย เพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่นแสนอร่อย สวนสวย สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัดพุทธศาสนา และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจ เชื่อว่าท่านจะต้องติดใจหลงเสน่ห์แน่นอน.