ต้นปาจีเทียนปลูกในป่า |
ในตำบล ลัง มีครัวเรือนราว 650 ครัวเรือน รวมประชากรกว่า 2,500 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่า เกอตู โดยชาวบ้านที่นี้เลือกการปลูกปาจีเทียน เป็นต้นไม้หลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ นาย บริ๊ว โป๊ ผู้ใหญ่บ้านในตำบล ลัง กล่าวว่า
“ปาจีเทียนปลูกง่ายและไม่ต้องดูแลมาก โดยเฉลี่ยถ้าปลูก 5 ต้นจะเก็บผลผลิตได้ 1 กิโลกรัม สร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านด่งต่อปีหรือราว 4,120 ดอลลาร์สหรัฐ นี่เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ช่วยแก้ปัญหาความยากจนในท้องถิ่น คาดว่า มีครอบครัวประมาณร้อยละ 65 – 70 ในตำบลที่ปลูกปาจีเทียน ”
ปัจจุบันนี้ ที่ตำบล ลัง ได้มีการจัดตั้งเขตอนุรักษ์ปาจีเทียนรวมพื้นที่ 6 เฮกตาร์ในป่าด่งดิบ โดยทางตำบลฯ ได้รณรงค์และอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านเข้าร่วมการปลูกปาจีเทียน ซึ่งชาวบ้านได้รับคำแนะนำและได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการขยายพันธุ์ การปลูก การดูแลและการผลิต นาย บหลิง ฟ๊าด หัวหน้าหมู่บ้านเปอร์นิง ตำบล ลัง เผยว่า
“แนวทางการพัฒนาพืชในตำบลฯ คือ ขยายการปลูกปาจีเทียนพันธุ์เฉพาะถิ่น โดยเฉพาะที่หมู่บ้านของเราก็มีสวนปลูกปาจีเทียนกว้างเกือบ 10 เฮกตาร์ ส่วนครอบครัวที่ปลูกปาจีเทียนมากที่สุดคือครอบครัวของนาย เกอเลา ท้ายหงอก ที่ปลูกเกือบ 5 เฮกตาร์ นาย เกอเลา ท้ายหงอก ยังจำหน่ายพันธุ์ให้แก่ครอบครัวอื่นๆ ด้วย รากปาจีเทียนขายที่ราคา 500,000 ด่งหรือประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม ถือเป็นยาสมุนไพรที่มีสรรพคุณรักษาได้หลายโรค”
รากปาจีเทียนขายที่ราคา 500,000 ด่งหรือประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐ |
ควบคู่กับการขยายพื้นที่ปลูกและอนุรักษ์ปาจีเทียน อำเภอ เตยยาง กำลังพัฒนาสถานที่จำหน่ายปาจีเทียน และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากปาจีเทียน เช่น สถานประกอบการ ชิ้ง โจว สถานประกอบการ ดึ๊กฮวี สหกรณ์เทียนบิ่งห์ สหกรณ์การเกษตร ชเอิม เป็นต้น ซึ่งสถานประกอบการเหล่านี้ได้เชื่อมโยงกับชาวบ้านเพื่อจัดสรรค์พันธุ์พืช การผลิตและจำหน่ายผลผลิตจากปาจีเทียน โดยเฉพาะมีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ OCOP เช่น ชาปาจีเทียน เหล้าปาจีเทียนและยาหม่องปาจีเทียน
ตามแผนที่วางไว้ ถึงปี 2025 จังหวัดกว๋างนามจะอนุรักษ์และขยายพื้นที่ปลูกสมุนไพร 9 ชนิดรวมพื้นที่เกือบ 40,000 เฮกตาร์ รวมทั้งพื้นที่ปลูกปาจีเทียน นาย โห่กวางบิ๋ว รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนามเผยว่า
“กว๋างนามเป็นจังหวัดที่มีการปลูกต้นสมุนไพรมากที่สุด ซึ่งแนวทางของทางการจังหวัดฯ คือ จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางพืชสมุนไพรของภาคตะวันออกและเขตที่ราบสูงเตยเหงียน ซึ่งแนวทางนี้ได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี”
ส่วนตำบล ลัง ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการปลูกปาจีเทียน ในจังหวัดกว๋างนาม ซึ่งที่ตำบลฯ ในปัจจุบันนี้ ครอบครัวที่ปลูกปาจีเทียนน้อยที่สุดก็มีมากถึงนับร้อยต้น ซึ่งการปลูกปาจีเทียนไม่เพียงแต่ช่วยให้ชาวบ้านหลุดพ้นจากความยากจนเท่านั้น หากยังช่วยให้หลายครอบครัวมีฐานะร่ำรวยอีกด้วย.