(VOVworld)-บั๊กนิงเป็นท้องถิ่นที่มีการพัฒนาตามแนวทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัยอย่างรวดเร็วส่งผลให้การผลิตเกษตรมีแนวโน้มลดลง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่หน่วยงานการเกษตรของจังหวัดกำลังต้องพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่ทางการท้องถิ่นกำลังปฏิบัติคือปรับและรวมพื้นที่เกษตรพร้อมทั้งนำเครื่องจักรเข้าใช้ในการผลิตเกษตร เพื่อสร้างพลังชีวิตใหม่ให้แก่หน่วยงานการผลิตเกษตรของท้องถิ่น

การใช้รถเกี่ยวนวดอเนกประสงค์ก็สามารถแทนแรงงานได้50-60วัน

แขวง.โหมะด๋าวถือเป็นหนึ่งในชุมชนแรกๆของอ.เกว้หวอ จังหวัดบั๊กนิงที่เสร็จสิ้นงานด้านการปรับและรวมพื้นที่การเกษตร โดยทุ่งนาแปลงเล็กๆได้ถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นแปลงใหญ่ขนาดหลายพันตารางเมตรและมีถนนคอนกรีตที่สะอาดตัดผ่าน ส่วนบรรยากาศการทำนาก็คึกคักโดยมีการนำเครื่องจักรนับสิบคันไม่ว่าจะเป็นรถไถนาอเนกประสงค์ รถดำนาหรือรถนวดข้าวมาใช้งาน ซึ่งเป็นผลจากโครงการร่วมมือและช่วยเหลือระหว่างสำนักงานพัฒนาการเกษตรและชนบทและสหกรณ์บริการการเกษตรโหมะด๋าว นาย เหงวียนดึ๊กนาม สมาชิกสหกรณ์เผยว่า นี่เป็นการเริ่มต้นให้แก่กระบวนการพัฒนาการเกษตรให้ทันสมัยของเกษตรกร“สำนักงานการเกษตรและคณะกรรมการประชาชนจ.ได้ให้การช่วยเหลือเครื่องจักรทั้งหมดรวมมูลค่า4ร้อยล้านด่งหรือประมาณ2หมื่นดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังดำเนินโครงการมา1ปีก็เห็นผลดีทุกคนต่างรู้สึกดีใจ เช่นการใช้เครื่องดำนาให้ประสิทธิภาพสูงกว่าการดำนาด้วยมือร้อยละ10 ส่วนการใช้รถเกี่ยวนวดอเนกประสงค์ก็สามารถประหยัดเวลาได้50-60วัน”

ทางจังหวัดบั๊กนิงเริ่มปฏิบัตินโยบายดังกล่าวตั้งแต่ปี2005และจนถึงขณะนี้สามารถเสร็จสิ้นแผนการปรับพื้นที่เกษตรได้ในระดับเบื้องต้นและขั้นตอนต่อไปในโครงการคือการพัฒนาการเกษตรตามแนวทางที่ทันสมัยด้วยการนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นายเหงวียนดิ่งต๊วน ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเกษตรและการประมงจังหวัดบั๊กยางเผยว่า ทั้งจังหวัดมีรถไถนาอเนกประสงค์ประมาณ5พันคัน รถนวดข้าวกว่า3พันคันและรถเกี่ยวนวดอเนกประสงค์60คัน ซึ่งเครื่องจักร1เครื่องสามารถทดแทนแรงงาน40คน ปริมาณผลผลิตเสียหายลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ3และได้เพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้เพื่อขยายผลโครงการพัฒนาการเกษตรตามแนวทางที่ทันสมัย ทางการจังหวัดบั๊กนิงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรทำการผลิตขนาดใหญ่เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าการผลิตและปรับเปลี่ยนองค์ประกอบด้านแรงงานในชนบทไปประกอบอาชีพอื่นๆ นายหวอมิงเฮี้ยว ผู้อำนวยการสำนักงานเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดบั๊กนิงเผยว่า“การใช้เครื่องจักรในการผลิตเกษตรของจังหวัดยังอยู่แค่ขั้นตอนการทำดิน รดน้ำ เกี่ยวนวดข้าว ส่วนขั้นตอนอื่นๆหลังการเก็บเกี่ยวยังมีการใช้เครื่องจักรที่ไม่มากนัก ดังนั้นหน่วยงานการเกษตรท้องถิ่นกำลังประสานงานเพื่อร่างโครงการส่งเสริมการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการผลิตระยะต่อไป”

จากแนวโน้มการพัฒนาตัวเมืองและอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว พื้นที่และแรงงานภาคการเกษตรนับวันลดน้อยลง การผลักดันการนำเครื่องจักรมาใช้ในภาคการเกษตรถือว่ามีความจำเป็นและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยของประเทศและนี่ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของกระบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ที่เกษตรกรจังหวัดบั๊กนิงมีรายได้สูงขึ้น./.