นางสาวณัฐวดี พิมพ์ทอง ซึ่งมีชื่อภาษาเวียดนามว่า Tú Anh ได้บอกว่า “ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ดิฉันได้ไปศึกษาภาคฤดูร้อน ณ เมืองหลวงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ดิฉันมีความรู้สึกว่าในช่วงเวลาสามเดือนนี้เป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากๆกับการที่หนูได้ไปศึกษาภาษาเวียดนามที่ต่างประเทศกับเจ้าของภาษาของเขาโดยตรงเลย ....อีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่ได้มาคือการได้สัมผัสถึงความเป็นเวียดนามและความแตกต่างระหว่างความเป็นเวียดนามกับความเป็นไทย ได้เห็นถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม ของคนเวียดนาม ....สิ่งที่ ดิฉันประทับใจมากที่สุดคือการมีเพื่อนชาวเวียดนาม ทุกคนน่ารัก อัธยาศัยดี เป็นกันเองมากคอยถามสารทุกข์สุขดิบและคอยให้ความช่วยเหลือดิฉันเสมอมา พวกเขาให้ความสนใจในภาษาไทยเป็นอย่างมากจนทำให้รู้สึกภูมิใจในภาษาของตน ในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ดิฉันประทับใจมากๆเพราะได้รับรู้ถึงสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน องค์ความรู้ เช่น ภาษา คำศัพท์ หรือคำศัพท์ที่วัยรุ่นมักใช้กัน ด้านมิตรภาพที่ดีระหว่างนิสิตกับคุณครูและเพื่อนๆชาวต่างชาติ สิ่งเหล่านี้ไม่อาจทำให้ดิฉันลืมได้ ... ขอขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่ให้ดิฉันได้ไปเรียนรู้ที่ประเทศเวียดนาม."
|
ส่วน นางสาว พสุพิชญ์ พรมพรรณา ได้ให้ความสนใจกับอาหารเวียดนามเป็นอันดับแรก “ประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่โฮจิมินห์ ข้าพเจ้าได้เรียนรู้หลายสิ่งจากที่นี่ทั้งเรื่องอาหาร ความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนตอนอยู่ไทย ข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะปรับตัวกับรูมเมท...เวลาไปเดินเล่นในเมืองข้าพเจ้าได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนเมืองที่รู้จักขายของมีทั้งข้างทาง ตามสวนสาธารณะ ป้ายรถเมล์เป็นอาหารรสชาติดีแต่ไม่มีขายในห้างหรือร้านอาหารใหญ่ๆบางร้านดูน่ากินบางร้านดูสกปรกแต่สิ่งสำคัญคือการชอบค้าขายของเขาถึงไม่มีร้านก็ขายได้มีแค่โต๊ะเล็กๆกับเก้าอี้สามสี่ตัวกับพื้นที่ว่าง พ่อของข้าพเจ้าบอกเสมอว่าเขาชอบค้าขายเขาค้าขายเก่งน่าลงทุนด้วย และสุดท้ายที่ได้เรียนรู้คือการทำอาหาร ข้าพเจ้าทำไม่ค่อยเป็นแต่ว่าพอจำได้บ้างจากการที่อาจารย์พาไปที่บ้านและสอนทำ ทั้งการห่อปอเปี๊ยะ การทำแบ๋งก๋วน ลฯล ..และประสบการณ์อีกมากมายที่เกิดขึ้นทุกวันตลอดเวลาสามเดือนจากไม่นั่งรถเมล์ก็ต้องนั่งทุกวันบางวันไม่มีรถก็ต้องเดินต่อไปมหาลัยให้ทันเรียน เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ข้าพเจ้าพัฒนาตนเองได้ดีจริงๆ./.