นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (Photo:baoquocte) |
ในการนี้ รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซินได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายฟื้นฟูกลไกการสนทนา ใช้โอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจผ่านข้อตกลง CPTPP พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า แคนาดาจะอำนวยความสพดวกให้แก่การนำเข้าผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนาม ผลักดันความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ คำมั่นต่างๆของเวียดนามในการประชุม COP -26 การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การเงินแห่งสีเขียว การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยั่งยืน พร้อมทั้งเสนอให้แคนาดารับรองวัคซีนพาสปอร์ตของเวียดนามโดยเร็ว
ส่วนรัฐมนตรี Melanie Joly ได้ยืนยันว่า แคนาดาให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนามในการปฏิบัตินโยบายด้านการต่างประเทศในภูมิภาค พร้อมทั้งให้คำมั่นที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามในการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อมุ่งสู่การรำลึกครบรอบ 5 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านและ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
รัฐมนตรีทั้งสองท่านได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและโลก สำหรับปัญหายูเครน รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซินได้ยืนยันจุดยืนที่เสมอปลายของเวียดนามคือทุกการพิพาทและความขัดแย้งระหว่างประเทศต้องได้รับการแก้ไขผ่านมาตรการที่สันติ ให้ความเคารพหลักการขั้นพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล โดยเฉพาะการเคารพเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศต่างๆ ค้ำประกันความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งชาวเวียดนามในยูเครน รัฐมนตรีทั้งสองท่านยังหารือเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก โดยให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายสากล ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก เช่น สหประชาชาติ เอเปก อาเซียนและกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส.