นาง เลถิทูหั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม |
วันที่ 24 มกราคม ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำของกระทรวงการต่างประเทศ ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเนื้อของการสนทนาเกี่ยวกับรายงานแห่งชาติของเวียดนามตามกลไกการตรวจสอบเป็นประจำหรือ UPR รอบที่ 3 ของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นาง เลถิทูหั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า “เมื่อวันที่ 22 มกราคมปี 2019 ในกรอบกลุ่มปฏิบัติงานเกี่ยวกับกลไกการตรวจสอบเป็นประจำหรือ UPR รอบที่ 3 ของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยนาย เลหว่ายจุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศพร้อมตัวแทนของกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 11 แห่งได้สนทนากับ 122 ประเทศสมาชิกแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์การผลักดันและปกป้องสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม เวียดนามให้ความสำคัญเป็นพิเศษและปฏิบัติ UPR อย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นกลไกที่ประสบความสำเร็จของสภาสิทธิมนุษยชนที่อาศัยหลักการความเท่าเทียมกัน การสนทนาและร่วมมือ คือหน้าที่ของประเทศสมาชิกของสหประชาชาติและเป็นโอกาสเพื่อแนะนำให้ประชาคมโลกทราบเกี่ยวกับนโยบาย ความพยายามและผลสำเร็จของเวียดนามในการผลักดันและปกป้องสิทธิมนุษยชนนับตั้งแต่การตรวจสอบเมื่อปี 2014
ประเทศต่างๆส่วนใหญ่ได้ชื่นชมผลสำเร็จของเวียดนามและส่งเสริมให้เวียดนามพยายามปกป้องสิทธิมนุษยชนต่อไป โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สวัสดิการสังคม การแก้ปัญหาความยากจน การปฏิบัติสิทธิของกลุ่มผู้ด้อยโอกาส เช่นสตรี เด็ก คนพิการและชนกลุ่มน้อย ชื่นชมและให้ความสำคัญต่อความจริงใจของเวียดนามในการปฏิบัติข้อเสนอ UPR ที่เห็นชอบในรอบที่ 2 ตลอดจนการจัดทำรายงาน UPR รอบที่ 3”
ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกระบวนการข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปหรืออีวีเอฟทีเอ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เลถิทูหั่ง ได้ยืนยันว่า “ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปหรืออีวีเอฟทีเอคือข้อตกลงที่มีความหมายสำคัญ นำผลประโยชน์มากมายมาให้แก่ประชาชนและชมรมสถานประกอบการเวียดนามและสหภาพยุโรป ซึงบนเจตนารมณ์นี้ ทั้งสองฝ่ายได้พยายามเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆเพื่อลงนามให้สัตยาบันและบังคับใช้ข้อตกลงโดยเร็ว.”