การประชุมได้เสนอแนวทางสำคัญในการส่งเสริมศักยภาพของสมาชิกและใช้ประโยชน์จากโอกาสจากแนวโน้มการพัฒนาใหม่ๆ เพื่อกลายเป็นจุดหมายด้านการลงทุนที่น่าสนใจอันดับต้นๆของภูมิภาคและสร้างก้าวกระโดดในความร่วมมือของ CLMV
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างก้าวกระโดดสำหรับความร่วมมือในกรอบ CLMV เพื่อตามทันและก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันบนพื้นฐานของการส่งเสริมพลังทั้งภายในและภายนอก เพราะความสามัคคีและความร่วมมือคือแนวทางเดียวที่สามารถช่วยให้4ประเทศ CLMV ฟันฝ่าความยากลำบากและร่วมกันสร้างสรรค์ภูมิภาค CLMV ที่พัฒนาคล่องตัวและยั่งยืน ด้วยเจตนารมณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเวียดนามจึงเสนอ "3 แนวทางใหม่" ในกรอบความร่วมมือ CLMV ในเวลาที่จะถึง
ประการแรก ความมุ่งมั่นใหม่ในการเสริมสร้างและสร้างความร่วมมือ CLMV ที่มีประสิทธิผลมากขึ้นเพี่อเป้าหมายสร้างเขตเศรษฐกิจ CLMV ที่พัฒนา พึ่งตนเอง และมีศักยภาพการแข่งขันสูง
ประการที่สอง ระบุประเด็นหลักใหม่ผ่านการเลือกกรอบความร่วมมือที่มีความเป็นไปได้สูง ในการปฏิบัติและสอดคล้องกับแนวโน้มใหม่ สามารถสนับสนุนให้แก่กลไกต่างๆของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงอื่นๆอย่างมีประสิทธิภาพ
ประการที่สาม สร้างทรัพยากรใหม่ที่มีพลังภายในมีบทบาทเป็นพื้นฐานสำคัญชี้ขาดที่ยาวนานและพลังภายนอกมีบทบาทความสำคัญและก้าวกระโดด
นายกรัฐมนตรีฝามมิงชิ้งห์ยืนยันว่าเวียดนามให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างกัมพูชา - ลาว - เมียนมาร์ - เวียดนามและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกระชับมิตรภาพที่ยาวนาน เพื่อนบ้านที่เป็นมิตร และเอื้อประโยชน์ร่วมกัน เพื่อให้ทั้งสี่ประเทศสามารถตามทัน ก้าวไปข้างหน้าและก้าวไปสู่การพัฒนายุคใหม่อย่างเข้มแข็ง
โอกาสนี้ บรรดาผู้นำได้อนุมัติแถลงการณ์ร่วมและเป็นสักขีพยานในการส่งมอบบทบาทการเป็นประธาน CLMV ระหว่างเมียนมาร์และเวียดนาม.