เวียดนามและอิหร่านร่วมกันเสริมสร้างการเชื่อมโยงต่างๆ

Chia sẻ
(VOVWORLD) -ในกรอบการเยือนอิหร่านตามคำเชิญของนาย  โมฮัมหมัด บาเกอร์ คาลิบัฟ   ประธานรัฐสภาอิหร่าน  เมื่อบ่ายวันที่ 9 สิงหาคม ณ สถาบันการวิจัยการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสังกัดกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านในกรุงเตหะราน นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้มีบทปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายที่สำคัญของเวียดนามต่อหน้านักวิชาการ นักวิจัยและบรรดาอดีตเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศต่างๆ 
เวียดนามและอิหร่านร่วมกันเสริมสร้างการเชื่อมโยงต่างๆ - ảnh 1นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม

ในการนี้ ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้กล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จของเวียดนาม  ซึ่งมาจากการยืนหยัดบทบาทการนำของพรรค รัฐบาลและสภาแห่งชาติเวียดนาม โดยถือประชาชนเป็นรากฐาน ถือความอิ่มหนำผาสุกของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด

“ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ยืนยันว่า เวียดนามสร้างสรรค์สังคมที่ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม ประชาชนเป็นเจ้าของ” นิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ขยายความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือกับประเทศต่างๆในโลก ทุกการตัดสินใจของพรรค สภาแห่งชาติและรัฐบาลต้องถือประชาชนและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง จากการที่มีแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและสถานประกอบการ ปฏิบัติการที่มีความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้เวียดนามฟันฝ่าความท้าทายเพื่อพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน”

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอิหร่าน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้ย้ำถึงอนาคตเกี่ยวกับสันติภาพและการพัฒนาด้วยวิสัยทัศน์ 50 ปีให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เสนอให้เวียดนามและอิหร่านร่วมกันเสริมสร้างการเชื่อมโยงกลไกการสนทนา ความร่วมมือและความไว้วางใจทางการเมือง  ส่งเสริมประสิทธิภาพกลไกความร่วมมือของรัฐสภา คณะกรรมการร่วมรัฐบาล การทาบทามความคิดเห็นทางการเมือง นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศต้องเชื่อมโยงด้านการค้าและการลงทุน เชื่อมโยงด้านมนุษย์ วัฒนธรรม การศึกษาและการท่องเที่ยว

“ทั้งสองประเทศควรเชื่อมโยงด้านดิจิทัล วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและคมนาคม นี่เป็นแนวทางและมาตรการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศในอนาคต ในโลกปัจจุบัน การเชื่อมโยงด้านดิจิทัล วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถลดการกีดกันต่างๆ นำคุณค่า และเพิ่มมูลค่าให้แก่ทั้งสองประเทศในหลายด้าน การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเปิดโอกาสการพัฒนาให้แก่ประเทศต่างๆ รวมทั้งเวียดนามและอิหร่าน”

โอกาสนี้ ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านตุลาการทางอาญา การกีฬา การเกษตรและการส่งเสริมการค้า ก่อนหน้านั้น ในโอกาสเยือนศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมอิหร่าน ณ กรุงเตหะราน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้ยืนยันว่า สภาแห่งชาติและรัฐบาลเวียดนามจะอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือสถานประกอบการต่างชาติ รวมทั้ง สถานประกอบการอิหร่านให้เข้ามาลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ

ในวันเดียวกัน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้เข้าร่วมพิธีเปิดสัปดาห์วัฒนธรรมเวียดนามในอิหร่านในโอกาสรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและพิธีตัดริบบิ้นเปิดงานนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับความสัมพันธ์เวียดนาม-อิหร่าน.

Komentar