เวียดนามและสหรัฐผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพ ส่งเสริมการพัฒนา เชิดชูกฎหมายสากลและรับมือความท้าทายร่วม

Chia sẻ
(VOVWORLD) -เมื่อค่ำวันที่ 29 มีนาคม ณ กรุงฮานอย เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงวียนฟู้จ่องได้มีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน 
เวียดนามและสหรัฐผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพ ส่งเสริมการพัฒนา เชิดชูกฎหมายสากลและรับมือความท้าทายร่วม - ảnh 1เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงวียนฟู้จ่องได้มีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน (Photo: TTXVN)

ในการนี้ เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่อง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายขยายและพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนของความสัมพันธ์ทวิภาคี ปฏิบัติข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหม ความมั่นคง  ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการค้าที่เอื้อประโยชน์ต่อกันและยั่งยืน ร่วมมือเพื่อค้ำประกันห่วงโซ่อุปทาน โครงสร้างพื้นฐานและด้านใหม่ๆ เช่น โลจิสติกส์ เศรษฐกิจดิจิทัล การปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข ทั้งสองฝ่ายผลักดันความร่วมมือในการแก้ไขผลเสียหายจากสงคราม การรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ การแลกเปลี่ยนข้อมูล การป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมและด้านอื่นๆ พร้อมทั้งชี้ชัดว่า เวียดนามจะประสานงานกับสหรัฐและหุ้นส่วนต่างๆเพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและสนับสนุนสหรัฐในการจัดฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปกปี 2023 ให้ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยืนยันว่า การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในแนวทางใหญ่ในนโยบายการพัฒนาของเวียดนามและแสดงความประสงค์ว่า สหรัฐจะสนับสนุนความพยายามของเวียดนาม

ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้ยืนยันว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญ สนับสนุนประเทศเวียดนามที่เอกราช พึ่งตนเองและเจริญรุ่งเรือง ยืนยันอีกครั้งถึงการเคารพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนและระบอบการเมืองของเวียดนาม พร้อมทั้งย้ำว่า ความร่วมมือด้านการค้า พลังงานสะอาด การปรับเปลี่ยนด้านพลังงานและสภาพภูมิอากาศเป็นด้านที่มีศักยภาพ สหรัฐให้คำมั่นที่จะส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับเวียดนามและประเทศต่างๆในการเจรจาเกี่ยวกับกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก สนับสนุนและร่วมมือเพื่อส่งเสริมเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงที่พัฒนา สันติภาพ ยั่งยืน และให้ความสำคัญต่อบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

ผู้นำทั้งสองท่านยังเห็นพ้องเกี่ยวกับการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ ค้ำประกันเสรีภาพในการเดินเรือ การบิน ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลังในการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี มุ่งสู่การลงนามร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลหรือ UNCLOS1982 .

Komentar