เพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลีขึ้นเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025

Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในกรอบการเยือนประเทศสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการ เช้าวันที่ 1 กรกฎาคม ณ กรุงโซล นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมการเสวนากับผู้บริหารเครือบริษัทใหญ่ๆ ของสาธารณรัฐเกาหลี เช่น Hyundai Motors, GS Energy, Doosan Enerbility, KB Financial Group, Hana Financial Group, Shinhan Bank, MB Bank, POSCO International, TKG Taekwang และSeegene Medical Foundation เป็นต้น 
เพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลีขึ้นเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 - ảnh 1นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งในการเสวนา

บรรดาผู้แทนได้ชื่นชมบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจในเวียดนาม พร้อมทั้งเผยว่า กำลังร่วมมือด้านการลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนามและแสดงความประสงค์ว่า จะขยายการลงทุนด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน ก๊าซธรรมชาติเหลว เครื่องยนต์ของเครื่องบิน อุตสาหกรรมการต่อเรือ การสร้างศูนย์ข้อมูลที่พร้อมเพรียงและเชื่อมโยง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริการสาธารณะ การเปิดสาขาของธนาคารต่างๆและดูแลสุขภาพของประชาชน เป็นต้น ซึ่งบรรดาสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีได้แสดงความประสงค์ว่า กระทรวงและหน่วยงานของเวียดนามจะปฏิรูประเบียบราชการ ค้ำประกันการจ่ายกระแสไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพและหลากหลายรูปแบบ มีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว การอบรมและใช้แรงงานและการเช่าที่ดิน เป็นต้น ต่อไป

ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ตอบคำถามของผู้แทนสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า เครือบริษัทชั้นนำของสาธารณรัฐเกาหลีจะขยายการลงทุน ร่วมมือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านใหม่ๆบนพื้นฐานของการเข้าถึงระดับโลก รอบด้านและประชาชนทุกคน มุ่งสู่การเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลีขึ้นเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 และ 1 แสน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 และเสนอให้ขยายความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจแบ่งปัน เศรษฐกิจฐานความรู้ เทคโนโลยี AI และด้านต่างๆของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เข้าร่วมงานด้านสวัสดิการสังคม ช่วยเหลือสถานประกอบการเวียดนามในการเข้าร่วมระบบห่วงโซ่คุณค่าของสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีและห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก และยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามให้คำมั่นรับฟังความคิดเห็น ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนสาธารณรัฐเกาหลีในการลงทุนประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในเวียดนาม

ส่วนในการเข้าร่วมฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลีในเช้าวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า เวียดนามส่งเสริมให้สถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีขยายการลงทุนในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยี AI การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานหมุนเวียน ไฮโดรเจน เทคโนโลยีชีวภาพ นวัตกรรม การอบรมแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงและอุตสาหกรรมวัฒนธรรม

โอกาสนี้ กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการทั้งสองประเทศได้ลงนามและแลกเปลี่ยนเอกสารความร่วมมือ 23 ฉบับ

เพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลีขึ้นเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 - ảnh 2ภาพการพบปะ

ส่วนในการพบปะกับนาย Cho Hyun-joon ประธานเครือบริษัท Hyosung ซึ่งมีบริษัท 8 แห่งและสำนักงานสาขา 1 แห่ง รวมยอดเงินลงทุนเกือบ 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้แก่การประกอบธุรกิจของบริษัทฯในเวียดนาม สนับสนุนการลงนามความตกลงร่วมมือระหว่างบริษัท Hyosung กับจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า เพื่อพัฒนาจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าให้เป็นศูนย์ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพและวัสดุระดับประเทศและภูมิภาค พร้อมทั้งเสนอให้บริษัท Hyosung ให้ความสนใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการเชื่อมโยงเพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการเวียดนามในการเข้าร่วมระบบห่วงโซ่คุณค่า เพิ่มการใช้วัตถุดิบที่เวียดนามผลิตและค้ำประกันสวัสดิการสังคมให้แก่แรงงานเวียดนาม

ส่วนในการพบปะกับนาย Shin Dong-bin ประธานเครือบริษัท Lotte นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้ชื่นชมกิจกรรมการลงทุนและประกอบธุรกิจของเครือบริษัท Lotte ในเวียดนาม พร้อมทั้งเผยว่า เวียดนามแสดงความยินดีและแสดงความประสงค์ว่า  Lotte จะขยายการลงทุนในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาการท่องเที่ยว

ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมฟอรั่มความร่วมมือด้านแรงงานเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลี โดยได้เผยว่า ต้องยกระดับความสัมพันธ์ด้านแรงงานให้สมกับการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน พร้อมทั้งเสนอให้สาธารณรัฐเกาหลีช่วยเหลือเวียดนามในการอบรมแหล่งบุคลากรเพื่อเอื้อประโยชน์ร่วมกัน ส่งผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารที่มีทักษะระดับสูงมาทำงานในเวียดนาม เพิ่มโควต้าสำหรับแรงงานเวียดนามในอุตสาหกรรมการต่อเรือ การเกษตร การประมง เทคโนโลยีสารสนเทศ พยาบาลและการบริการ เป็นต้น.

Komentar