นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม
|
ในการนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ประเมินว่า เวียดนามประสบความสำเร็จที่สำคัญในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 พร้อมทั้ง กำชับว่า ต้องมีมาตรการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของประเทศ รวมทั้ง 8 จังหวัดในเขตเศรษฐกิจหลักภาคใต้ที่มีบทบาทที่สำคัญของประเทศ คิดเป็นร้อยละ 42 ของจีดีพีและร้อยละ 42 ของงบประมาณแผ่นดิน อีกทั้ง กล่าวถึงการประเมินของธนาคารโลกเมื่อเร็วๆนี้ โดยเห็นว่า “จากบทบาทของเขตเศรษฐกิจหลักภาคใต้ ผมขอเสนอว่า หนึ่งคือ อัตรการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังติดลบ ดังนั้น เวียดนามต้องพยายามมากขึ้นและ 8 จังหวัดในเขตเศรษฐกิจหลักภาคใต้ต้องพยายามปฏิบัติเป้าหมายที่รัฐบาลได้มอบหมาย ผมกำชับให้ต้องมีมาตรการต่างๆ เช่น การเบิกจ่ายเงินทุนสาธารณะ โดยเฉพาะ วงเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลประกาศ มาตรการแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการและประชาชน ผลักดันกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของท้องถิ่น รวมทั้ง ระดมแหล่งพลังเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน”
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ยังกำชับให้ท้องถิ่นต่างๆในเขตเศรษฐกิจหลักภาคใต้พัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรม ตัวเมืองอัจฉริยะในสภาวการณ์ที่มีการพยากรณ์ว่า แหล่งเงินลงทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าเวียดนามจะเพิ่มสูงขึ้นในเวลาที่จะถึงซึ่งจะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน เศรษฐกิจดิจิทัล รูปแบบการประกอบธุรกิจแบบใหม่ ผลักดันการส่งออกเพื่อใช้โอกาสจากข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ.