ส่วนร่วมของเวียดนามในฟอรั่มทางการเมืองระดับสูงปี2018ของสหประชาชาติเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Chia sẻ

(VOVWORLD) -ในระหว่างวันที่9-19กรกฎาคม ณ สำนักงานของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ ได้มีการจัดการประชุมระดับสูงและฟอรั่มทางการเมืองระดับสูงของสภาเศรษฐกิจ-สังคมแห่งสหประชาชาติหรือ ECOSOC คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยนาย เหงวียนเท้เฟือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวและมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อที่ประชุม 

ส่วนร่วมของเวียดนามในฟอรั่มทางการเมืองระดับสูงปี2018ของสหประชาชาติเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 1นาย เหงวียนเท้เฟือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน (Photo: TTXVN) 

หลังการประชุม ได้มีการออกแถลงการณ์ระดับรัฐมนตรี โดยยืนยันถึงความตั้งใจของประเทศต่างๆในการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมปี2030เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ย้ำถึงความตั้งใจในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน  ในการประชุมครั้งนี้ เวียดนามเป็นหนึ่งใน47ประเทศที่อ่านรายงานVNR ซึ่งเป็นรายงานผลการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนค.ศ. 2030 เกี่ยวกับการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน   โดยได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลก

ในการกล่าวปราศรัยต่อการประชุมระดับสูง นาย เหงวียนเท้เฟือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้ยืนยันว่า เวียดนามให้คำมั่นที่จะปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมปี2030 ส่งเสริมแหล่งพลังภายในผสานกับการผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก เสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนต่างๆเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน เป็นตัวของตัวเองและไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พร้อมทั้ง ชี้ชัดถึงความท้าทายระดับโลกและย้ำว่า เพื่อปฏิบัติเป้าหมมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ต้องค้ำประกันสันติภาพและเสถียรภาพบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและเรียกร้องให้ประเทศมีความรับผิดชอบในการส่งเสริมความร่วมมือและช่วยเหลือประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ ประเทศที่กำลังพัฒนา คณะผู้แทนเวียดนามยังกล่าวปราศรัยในการประชุมตรวจสอบการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน6รายการ ประสานกับประเทศต่างๆในการจัดทำและอนุมัติแถลงการณ์ระดับรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาที่สร้างความสมดุลและสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและผลประโยชน์ของประเทศที่กำลังพัฒนา  นอกรอบการประชุมดังกล่าว เวียดนามยังร่วมกับประเทศต่างๆจัดการเสวนา “เศรษฐกิจแห่งสีเขียวและผลกระทบต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน”และ “การบริหารความเสี่ยงในการจัดสรรน้ำและสุขาภิบาล-ซอฟต์แวร์และความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน”.

Komentar