 พลเอก โงซวนหลิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและหัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (VNA) |
ในจดหมายที่ส่งถึงฟอรั่ม นาย สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์และประธานประเทศจีนได้ย้ำว่า จีนยืนหยัดแนวทางพัฒนาอย่างสันติ พร้อมร่วมมือด้านความมั่นคงกับทุกประเทศเพื่อเป้าหมายทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ ในพิธีเปิดฟอรั่ม พลโทเว่ยเฟ้งเฮ้อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีนได้เผยว่า จีนมีความประสงค์ที่จะสร้างสรรค์โครงสร้างความมั่นคงในภูมิภาคที่ประเทศต่างๆยอมรับได้
ส่วนในการประชุมครบองค์ครั้งแรกเกี่ยวกับความร่วมมือในการบริหารจัดการปัญหาความมั่นคงระหว่างประเทศ พลเอก โงซวนหลิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและหัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามได้เผยว่า ประชาคมประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียนถือการกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านกับจีนคือจุดยืนร่วมเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา ซึ่งหนึ่งในความสำเร็จของอาเซียนคือได้ร่วมกับจีนอนุมัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออก หรือ ดีโอซี และกำลังเจรจาเพื่อจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีเพื่อรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินอย่างเสรีในเขตทะเลที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆต่อการค้าโลกและยืนยันว่า จากการเป็นประเทศสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของอาเซียน เวียดนามให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างความสามัคคีภายในกลุ่ม เสนอความคิดริเริ่มเพื่อมีส่วนร่วมต่อกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงที่อาเซียนมีบทบาทเป็นศูนย์กลาง เวียดนามกำลังเตรียมปฏิบัติหน้าที่ประธานหมุนเวียนอาเซียนปี 2020 โดยตั้งเป้าหมายว่า จะกระชับความร่วมมือกับประเทศต่างๆทั้งภายในและนอกภูมิภาคในการแก้ไขความท้าทายด้านความมั่นคงร่วมกัน เวียดนามพร้อมปฏิบัติหน้าที่สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 เพื่อมีส่วนร่วมต่อภารกิจรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงของสหประชาชาติมากขึ้น
สำหรับปัญหาต่างๆทางทะเล เวียดนามมีแนวทางยืนหยัดแก้ไขปัญหาการพิพาทและความขัดแย้งด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล ปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982และข้อตกลงระหว่างผู้นำเวียดนามและจีน ไม่ใช้ หรือ ข่มขู่ที่จะใช้กำลัง ค้ำประกันผลประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ ให้ความเคารพผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศอื่นๆ ควบคุมปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ผ่านการสนทนาเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมทั้งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ฟอรั่มแซงซานครั้งที่ 8 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการกว่า 500 คนจาก 74 ประเทศและองค์การเข้าร่วม.