ผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนาม เหงวียนถิห่ง (Photo: TTXVN) |
ผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนาม เหงวียนถิห่ง รัฐมนตรีว่าการรกระทรวงการคลัง โห่ดึ๊กเฟิ้ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน เหงวียนชี้หยุง ได้ชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาในการบริหารเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาที่บรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ผู้ว่าการธนาคารชาติ เหงวียนถิห่งเผยว่า ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในปลายปีที่แล้วมีความผันผวนใหม่ ซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ มีอุปสรรคและความท้าทายนานัปการ ธนาคารชาติเวียดนามได้ยืนหยัดการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อมีมาตรการรับมืออย่างคล่องตัว สำหรับการบริหารอัตราดอกเบี้ย ในปีที่แล้ว อัตราดอกเบี้ยในเวียดนามอยู่ในระดับสูงเนื่องอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศเพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศสูงกว่าปี 2021 นอกจากนี้แรงกดดันจากเงินด่งที่อ่อนค่าลงเนื่องจากประเทศต่างๆเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัตินโยบายด้านการเงินและดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ผู้ว่าการธนาคารชาติ เหงวียนถิห่งเห็นว่า ต้องมีมาตรการที่คล่องตัวและพร้อมเพรียงเพื่อแก้ไข หลีกเลี่ยงปัญหาเงินด่งอ่อนค่า เพราะทำให้ต้นทุนและอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ส่วนความผันผวนของธนาคารสหรัฐในเวลาที่ผ่านมา ผู้ว่าธนาคารชาติ เหงวียนถิห่งเห็นว่า
“การให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการค้ำประกันการดำเนินงานของระบบธนาคาร ธนาคารชาติและรัฐบาลเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง ธนาคารชาติได้พิจารณามาตรการและช่วงเวลาประกาศนโยบายอย่างรอบคอบเพื่อเน้นรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ค้ำประกันความปลอดภัยให้แก่ระบบธนาคาร สร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวกให้แก่สถานประกอบการและประชาชน”
สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน เหงวียนชี้หยุงได้เผยว่า การขยายตัวในช่วงต้นปีนี้เป็นผลงานเชิงบวก สำหรับหน้าที่ในเวลาที่จะถึง รัฐมนตรี เหงวียนชี้หยุงเผยว่า
“ รัฐบาลจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แก้ไขอุปสรรคเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับโครงการเป้าหมายแห่งชาติ รัฐบาลจะชี้นำการเบิกจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว มีมาตรการและนโยบายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการในเวลาที่จะถึง”
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโห่ดึ๊กเฟิ๊กได้ชี้แจงการบริหารธุรกิจประกันภัย ส่วนในช่วงบ่าย สภาแห่งชาติได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการลดภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 2 ผู้แทนสภาแห่งชาติหลายคนได้เสนอให้ขยายเวลาการปฏิบัตินโยบายดังกล่าวจนถึงสิ้นปี 2025และด้านที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายนี้ นาย หวูเตี๊ยนหลก ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยได้เสนอให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่มในทุกด้านและขยายเวลาปฏิบัติจนถึงปลายปี 2024
“ตลาดโลกกำลังประสบอุปสรรค ส่งผลกระทบต่อตลาดการส่งออก มาตรการส่งเสริมการค้า การลงทุนและขยายตลาดเกิดประสิทธิภาพน้อย ดังนั้น การกระตุ้นตลาดภายในประเทศจึงเป็นมาตรการที่สำคัญ การลดภาษีมูลค่าเพิ่มจะช่วยลดอุปสรรคให้แก่ผู้บริโภคและส่งผลในเชิงบวกต่อตลาดของสถานประกอบการ”.