(VOVworld) – เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม นอกรอบการประชุมระดับสูงการสนทนาเอเชียหรือเอซีดีครั้งที่ 2 รองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดาม ได้เข้าเยี่ยมคาราวะประธานาธิบดีศรีลังกา ไมตรีปาละ สิริเสนา และรองนายกรัฐมนตรีกาตาร์ อาห์เมด บิน อับดุลลาห์ บิน ซาอิด อัล มามุด โดยในการพบปะกับประธานาธิบดีศรีลังกา นาย หวูดึ๊กดาม ได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะพัฒนาสัมพันธไมตรีที่ยาวนานและความร่วมมือกับศรีลังกา ทั้งสองฝ่ายแสดงควาเมเห็นว่า ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมาได้บรรลุผลงานที่สำคัญในทุกด้าน ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองฝ่ายต้องผลักดันการเยือนระดับสูงระหว่างกันและปฏิบัติกลไกความร่วมมือทวิภาคีที่กำลังมีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานที่เกี่ยวข้องต้องเป็นฝ่ายรุกในการวิจัย มีข้อเสนอและปฏิบัติมาตรการผลักดันการขยายตัวด้านการค้า กำหนดด้านที่ส่งเสริมการลงทุนทวิภาคี อำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการผลักดันความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยเฉพาะในด้านการเกษตรและสัตว์น้ำ รองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดาม เสนอให้ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนกันในฟอรั่มทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ร่วมมือปกป้องผลประโยชน์ของประเทศที่กำลังพัฒนาและผลักดันความร่วมมือใต้-ใต้

ในวันเดียวกัน นาย หวูดึ๊กดาม ได้พบปะกับรองนายกรัฐมนตรีกาตาร์ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ โดยเฉพาะคณะผู้แทนระดับสูง ประสานงานอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนกันในฟอรั่มระหว่างประเทศและผลักดันการแลกเปลี่ยนการค้า รองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดาม มีความประสงค์ว่า กาตาร์จะรับรองระเบียบเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างสมบูรณ์ของเวียดนามโดยเร็วตามข้อตกลงที่ได้บรรลุในการประชุมครั้งที่ 2 คณะกรรมการร่วมเวียดนาม-กาตาร์

นอกนอบการประชุมระดับสูงการสนทนาเอเชีย นาย หวูดึ๊กดาม ได้เข้าพบนาย ทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีลาว โดยเสนอให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันการเยือนทุกระดับ ประสานงานเป็นอย่างดีเพื่อจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 55 ปีการสถานปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 40 ปีการลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือเวียดนาม-ลาวในปี 2017 สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ต้องอำนวยความสะดวกให้แก่โครงการร่วมมือลงทุนระหว่างสองประเทศ มีกลไก นโยบายให้การช่วยเหลือและแก้ไขอุปสรรคของสถานประกอบการ ผลักดันความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การศึกษาและฝึกอบรม การพัฒนาแหล่งบุคลากร การคมนาคมขนส่ง การเงินและธนาคาร เป็นต้น ประสานงานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งกับประเทศและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆในการบริหารจัดการและใช้แหล่งน้ำของแม่น้ำโขงอย่างมีประสิทธิภาพ.