บทความดังกล่าวระบุว่า การเยือนสิงคโปร์ในระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ของนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง มีขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์นับวันพัฒนาในทุกด้าน ซึ่งความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศเป็นจุดเด่นในภูมิภาค เวียดนามและสิงคโปร์สนับสนุนการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค รวมทั้งบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน การเยือนครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง จะเป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำทั้งสองประเทศหารือเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมือง ผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือทวิภาคีในทุกด้านให้นับวันมีประสิทธิภาพและจริงจังมากขึ้น
ส่วนในกรอบการเยือนบรูไนในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งจะหารือกับบรรดาผู้นำบรูไนเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมความสัมพันธ์วิภาคี การปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและการเจรจาเพื่อบรรลุร่างหลักปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจัง สอดคล้องกับกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางะเลปี 1982 บทความดังกล่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง มีความพยายามที่สำคัญเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับทั้งสองประเทศสมาชิกอาเซียนให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ผ่านการเยือนครั้งนี้
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ หนังสือพิมพ์รายวัน Business Times ของสิงคโปร์ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการเยือนสิงคโปร์ของนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง โดยอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ Vivian Balakrishnan ว่า เวียดนามและสิงคโปร์มีโอกาสมากมายเพื่อผลักดันความร่วมมือในด้านการขยายตัวใหม่ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานหมุนเวียน การเงินแห่งสีเขียว ความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน.