ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ  (VNA)

ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของสภาแห่งชาติ หวูหายห่า เผยว่า คาดว่า ในกรอบการเยือนคิวบา ผู้นำรัฐสภาของทั้งสองประเทศจะลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไกความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการสนับสนุนกันในฟอรั่มสหภาพรัฐสภาระดับภูมิภาคและโลก ร่วมกันส่งเสริมการตรวจสอบข้อตกลงความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายเพื่อทำให้ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับคิวบาพัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ

คาดว่า ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ จะกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมรัฐสภาคิวบาในวันที่ 19 เมษายน โดยจะยืนยันอีกครั้งถึงความสามัคคีกับประชาชนคิวบา แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากสถานการณ์ที่เป็นจริงของการปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศของเวียดนาม และยืนยันว่า ทั้งสองประเทศจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กันเพื่อเอกราช  เสรีภาพ สันติภาพและการพัฒนาของแต่ละประเทศ

สำหรับการเยือนคิวบา อาร์เจนตินาและสาธารณรัฐโอเรียนทัลอุรุกวัยอย่างเป็นทางการของประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ เมื่อวันที่ 16 เมษายน หนังสือพิมพ์รายวัน La Jornada ของเม็กซิโกรายงานว่า การเยือนของประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ แสดงให้เห็นถึงคำมั่นและความปรารถนาของเวียดนามในการส่งเสริมความสัมพันธ์ในหลายด้านกับ 3 ประเทศเหล่านี้ทั้งผ่านช่องทางด้านการต่างประเทศของรัฐสภาและนโยบายการต่างประเทศของเวียดนาม นั่นคือการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการกระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศหุ้นส่วนดั้งเดิมในภูมิภาคลาตินอเมริกา ซึ่งหนังสือพิมพ์รายวันภาษาสเปนที่มีผู้อ่านมากเป็นอันดับที่ 7 ในภูมิภาคนี้ระบุว่า สัมพันธไมตรีที่ยาวนานระหว่างเวียดนามกับประเทศในลาตินอเมริกามาจากการมีความคล้ายคลึงกันมากมายในประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติ

ส่วนหนังสือพิมพ์ Regeneración ของพรรค Morena ซึ่งเป็นพรรคกุมอำนาจในเม็กซิโกได้ทบทวนประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติ ตลอดจนความสำเร็จที่โดดเด่นของเวียดนามในการเปลี่ยนแปลงใหม่และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

หนังสือพิมพ์ Voces Del Periodista ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของนักข่าวชาวเม็กซิกันรายงานว่า สภาแห่งชาติเวียดนามสมัยที่ 15 ซึ่งอยู่ภายใต้การนำของนาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติได้แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของตัวอย่างรัฐสภาที่เปลี่ยนแปลงใหม่และมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบของตน อีกทั้ง ระบุว่า สภาแห่งชาติเวียดนามได้เดินพร้อมกับรัฐบาลเพื่อมีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของ “การทูตวัคซีน” ซึ่งช่วยให้เวียดนามประสบความสำเร็จในการปฏิบัติยุทธศาสตร์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19.