|
ท่านเหงียนเติ๊นหยุงกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม
|
(VOVworld) – เช้าวันที่ 12 สิงหาคม ที่กรุงฮานอย ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมการทูตพหุภาคีศตวรรษที่ 21 และเสนอนโยบายให้แก่เวียดนาม โดยกล่าวปราศรัยย้ำว่า การทูตพหุภาคีนับวันยิ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเมือง เศรษฐกิจและการต่างประเทศของโลกและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในนโยบายการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม งานด้านการต่างประเทศเวียดนาม รวมทั้งการต่างประเทศพหุภาคีได้มีส่วนร่วมในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ในกระบวนการเข้าร่วมและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก เวียดนามตระหนักได้ดีถึงบทบาทสำคัญของระเบียบการและฟอรั่มพหุภาคีต่อปัญหาความมั่นคงและการพัฒนาของภูมิภาคและโลก
นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงยังกล่าวว่า ในพื้นฐานของแนวทางใหญ่ๆของพรรคและแนวโน้มของโลก การทูตพหุภาคีถือเป็นส่วนสำคัญของนโยบายการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อปฏิบัติงานด้านการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง มีลักษณะพหุภาคี มีความหลากหลายและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ระเบียบการและฟอรั่มพหุภาคีถือเป็นเวทีให้เวียดนามปกป้องและผลักดันผลประโยชน์ด้านความมั่นคงและการพัฒนา ยกระดับสถานะของตนให้เหมาะกับผลประโยชน์ร่วมกัน ร่วมมือแก้ไขความท้าทายต่างๆของโลกและสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่เสมอภาคและเอื้อประโยชน์ตามกฎหมายสากล พร้อมทั้งแสดงเจตนารมณ์ “เวียดนามเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือและเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบสูงของประชาคมโลก” ท่านเหงียนเติ๊นหยุงยืนยันว่า“ในกระบวนการพิทักษ์รักษาอธิปไตยของประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์ในทะเลตะวันออกปัจจุบัน พวกเราต้องให้ความสำคัญต่อบทบาทและคำพูดของระเบียบการและฟอรั่มพหุภาคี โดยเฉพาะสหประชาชาติ อาเซียนและขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ความสามัคคีและการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากเพื่อนมิตรนานาชาติต่อจุดยืนที่ชอบธรรมของเวียดนามในฟอรั่มเหล่านี้ได้มีส่วนร่วมยกย่องแนวทางของเวียดนามในการแก้ไขปัญหาพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล แถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี ไม่ใช้อาวุธหรือข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธ”
นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงเสนอให้ผู้ประกาศและตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศหารือเพื่อแสวงหามาตรการผลักดันการทูตพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพเพื่อค้ำประกันบรรยากาศสันติภาพและการพัฒนาประเทศในยุคแห่งยุทธศาสตร์ใหม่./.