นายกรัฐมนตรีเวียดนามเสนอ 3 แนวทางเพื่อขยายความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ GCC

Chia sẻ
(VOVWORLD) -วันที่ 20 ตุลาคม การประชุมระดับสูงครั้งแรกระหว่างอาเซียนกับคณะมนตรีความร่วมมือแห่งรัฐอ่าวอาหรับหรือ GCC ได้มีขึ้น ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย 
นายกรัฐมนตรีเวียดนามเสนอ 3 แนวทางเพื่อขยายความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ GCC - ảnh 1ผู้แทนถ่ายรูปร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมโดยย้ำถึงปัญหาที่ทั้งสองกลุ่มต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ในเวลาที่จะถึง

โดยนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า การประชุมครั้งแรกนี้เป็นนิมิตหมายแห่งประวัติศาสตร์และเวียดนามสนับสนุนให้ที่ประชุมออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อนำความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับ GCC ขึ้นสู่งขั้นสูงใหม่ พร้อมทั้งเสนอ 3 แนวทางเพื่อขยายความสัมพันธ์นี้ในอนาคต 1 คือ อาเซียนและ GCC ต้องอำนวยความสะดวกให้แก่กันมากขึ้นเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนกลายเป็นเสาหลักที่สำคัญและพลังขับเคลื่อนในการเชื่อมโยงระหว่างสองภูมิภาค อาเซียนและ GCC ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ถึงการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจแบ่งปัน การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนและการปรับเปลี่ยนพลังงาน เ และผลักดันการเชื่อมโยงใน 3 ด้าน คือการเชื่อมโยงในด้านมนุษย์ วัฒนธรรมและแรงงาน การเชื่อมโยงในด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานผ่านการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ 2 คือ ต้องแปรกลไกความร่วมมืออาเซียน – GCC ให้มีความต่อเนื่องจริงจังและมีประสิทธิภาพ 3 คือ ขยายความร่วมมือพหุภาคีเพื่อร่วมกันรักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนา

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้สรุปว่า จากการเป็นกลุ่มในระดับภูมิภาคที่ประสบความสำเร็จต่างๆ อาเซียนและ GCCควรสนับสนุนกันเพื่อส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลาง มีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของทั้งสองภูมิภาคและโลก

นายกรัฐมนตรีเวียดนามเสนอ 3 แนวทางเพื่อขยายความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ GCC - ảnh 2นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะหารือกับนาย Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย (VNA)

นอกกรอบการประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะหารือกับผู้นำบางประเทศอาเซียน เช่น นาย Ferdinand Romualdez Marcos Jr ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์  นาย Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย  และนาย หลีเซียนหลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์. 

Komentar