นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลียและอาเซียน-สหประชาชาติ

Chia sẻ
(VOVWORLD) - บ่ายวันที่ 7 กันยายน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งและบรรดาผู้นำอาเซียนและหุ้นส่วนได้เข้าร่วมพิธีปิดการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 43 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องและการส่งมอบหน้าที่ประธานอาเซียนให้แก่ประเทศลาว ต่อจากนั้นในค่ำวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และคณะผู้แทนเวียดนามได้เดินทางกลับประเทศ เสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 43 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลียและอาเซียน-สหประชาชาติ - ảnh 1การประชุมผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลียครั้งที่ 3 (VGP)

ในการประชุมผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลียครั้งที่ 3 เมื่อบ่ายวันที่ 7 กันยายน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า ในตลอดเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา อาเซียนและออสเตรเลียเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและเพื่อนที่ดีต่อกัน อาเซียนเห็นพ้องในการร่วมกับออสเตรเลียส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการค้า การลงทุน การเข้าถึงตลาด การค้าพหุภาคี ความร่วมมือด้านการศึกษา ฝึกอบรม การสอนอาชีพ การพัฒนาแหล่งบุคลากร การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การบริหารจัดการภัยพิบัติ การปรับเปลี่ยนด้านพลังงานและการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยที่ประชุมได้อนุมัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือเพื่อค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหารในภาวะวิกฤต

ส่วนในการประชุมผู้นำอาเซียน-สหประชาชาติครั้งที่ 13 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้สหประชาชาติให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการช่วยเหลือเวียดนามและประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในการบริหารและใช้แหล่งน้ำจากแม่น้ำอย่างยั่งยืน ยกระดับทักษะในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญหาน้ำทะเลหนุนในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ช่วยเหลือเวียดนามในการปฏิบัติข้อตกลงความสัมพันธ์หุ้นส่วนการปรับเปลี่ยนด้านพลังงานที่เป็นธรรมหรือ JETP การปรับเปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน สนับสนุนบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาค ประสานงานกับอาเซียนในการส่งเสริมคุณค่าที่มุ่งสู่สันติภาพ การขยายการสนทนา ความร่วมมือ การสร้างความไว้วางใจ การจัดทำหลักปฏิบัติต่อกันระหว่างฝ่ายต่างๆบนพื้นฐานของการให้ความเคารพกฎหมาย และย้ำว่า เวียดนามพยายามปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ รวมถึงการเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025.

Komentar