นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ให้การต้อนรับนาง ลูเซียนา ซานโตส หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์บราซิล

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เผยว่า เวียดนามสนับสนุนการส่งเสริมความสามัคคีระหว่างประเทศ เชิดชูลัทธิพหุภาคี รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์บราซิล และมีความประสงค์ว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์บราซิล นาง ลูเซียนา ซานโตส จะให้ความสนใจ สนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือกับเวียดนามต่อไป

ส่วนนาง ลูเซียนา ซานโตส หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์บราซิลได้แสดงความชื่นชมต่อประธานโฮจิมินห์ โดยยืนยันว่า ภารกิจการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประชาชนเวียดนามได้สร้างแรงบันดาลใจที่เข้มแข็งให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์บราซิล กองกำลังหัวก้าวหน้าที่รักสันติภาพของบราซิลและภูมิภาคลาตินอเมริกา อีกทั้ง ชื่นชมนโยบายที่ถูกต้องและความสำเร็จในทุกด้านเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การค้ำประกันงานด้านกลาโหม ความมั่นคง การผลักดันงานด้านการต่างประเทศ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกที่ประชาชนเวียดนามได้บรรลุภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามซึ่งนำโดยท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งและนายลูเซียนา ซานโตส หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์บราซิล ได้หารือเกี่ยวกับมาตรการเพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรี ความร่วมมือที่ดีงามระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ ธำรงและยกระดับความร่วมมือระหว่างสองพรรค รวมทั้ง ความร่วมมือในฟอรั่มของพรรคการเมืองที่สำคัญๆ เช่น ฟอรั่มเซาเปาโล

บ่ายวันเดียวกันตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงบราซิเลีย ในการให้การต้อนรับนาย เปโดร เด โอลิเวรา  เลขาธิการสมาคมมิตรภาพบราซิล-เวียดนาม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า ภายหลังกว่า 34 ปี ความสัมพันธ์เวียดนาม-บราซิลได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องควบคู่กับความพยายามของประชาชนทั้งสองประเทศและการสนับสนุนของสมาคมมิตรภาพบราซิล-เวียดนาม แต่ศักยภาพความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศยังคงมีอีกมาก นายกรัฐมนตรีเสนอให้สมาคมมิตรภาพบราซิล-เวียดนามและสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-บราซิลส่งเสริมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน การแลกเปลี่ยนระดับประชาชน การพบปะสังสรรค์ด้านวัฒนธรรม การศึกษาและการกีฬาต่อไป มีความคิดริเริ่มและกิจกรรมที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ

บ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เดินทางไปเยือนสถานทูตเวียดนามประจำบราซิล โดยพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ พนักงานของสถานทูตเวียดนามและสำนักงานตัวแทนเวียดนามในบราซิล โดยเสนอให้เน้นถึงเสาหลักด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ส่งเสริมการเจรจา การลงนามข้อตกลงการค้าเสรีทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนและข้อตกลงเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำซ้อนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การศึกษา การกีฬาและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ประสานงานในฟอรั่มพหุภาคีเพื่อสนับสนุนกัน โดยเฉพาะบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก

ก่อนหน้านั้น เช้าวันเดียวกันตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง  ได้เดินทางไปเยือนสโมสรฟุตบอลคอรินเทียนส์เปาลิสตา ในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล.