ในการนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า บนพื้นฐานของความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและการชี้นำของผู้นำพรรคและรัฐของสองประเทศ ซึ่งนำโดยเลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนฟู้จ่องและเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง พร้อมกับความพยายามของทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรคและสองรัฐได้พัฒนาอย่างดีงามในหลายด้าน นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้หารือและเห็นพ้องเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของความสัมพันธ์เพื่อนบ้านมิตรภาพที่มีมาช้านาน ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับจีนและมาตรการขยายความสัมพันธืในเวลาข้างหน้า เช่น ธำรงการพบปะแลกเปลี่ยนทุกระดับในรูปแบบที่คล่องตัวและเหมาะสม เพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน โดยเฉพาะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 และการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม
สำหรับปัญหาทะเล นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันพยายามธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลบนเจตนารมคือความรู้ร่วมกันของผู้นำทั้งสองประเทศและการให้ความเคารพต่อกฎหมาย โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ควบคุมความขัดแย้ง ตระหนักได้ดีและให้ความสนใจถึงผลประโยชน์และสิทธิที่ชอบธรรมของกันเพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกตามแนวทางแก้ไขจากปัญหาง่ายถึงปัญหายาก ไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทั่วไปของทั้งสองประเทศ พยายามกับอาเซียนผลักดันการเจรจาเกี่ยวกับการจัดทำซีโอซีโดยเร็ว
ส่วนนาย หลีเค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้ยืนยันว่า ให้ความสำคัญและสนใจต่อข้อเสนอต่างๆของเวียดนามในความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกให้สินค้าเวียดนามส่งออกไปยังประเทศจีนมากขึ้น พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ที่จะผลักดันกลไกการเจรจาในทะเลระหว่างสองประเทศจะบรรลุความคืบหน้าอย่างแท้จริง พร้อมร่วมมือกับเวียดนามและบรรดาประเทศอาเซียนพยายามบรรลุซีโอซีโดยเร็ว.