(VOVworld) – ผลการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมเวียดนามปี 2012และในช่วงเดือนแรกของปี 2013 คือเนื้อหาที่ได้อภิปรายในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 5 สมัยที่ 13 ที่มีขึ้นในเช้าวันที่ 30 พฤษภาคมซึ่งได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับชมรับฟัง
|
นาย Trần Du Lịch ผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์ (vnexpress.net) |
บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้เห็นพ้องกับรายงานของรัฐบาลที่ได้วิเคราะห์อย่างชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคมในปัจจุบันซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2012 สถานการณ์เศรษฐกิจได้มีสัญญาณดีขึ้นซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้และนี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อปฏิบัติมาตรการที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในระยะกลาง นอกจากนั้น บรรดาผู้แทนยังเห็นพ้องกับกลุ่มมาตรการ 6 ข้อที่รัฐบาลได้เสนอ แต่แสดงความเห็นว่า การปฏิบัติมาตรการดังกล่าวยังไม่เข้มแข็งพอเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจ นาย Trần Du Lịch ผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์ได้เสนอว่า “ใน 2 ปีครึ่งที่เหลือของแผนพัฒนาระยะ 5 ปี ต้องสร้างสรรค์โครงการเป้าหมายระยะกลางเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งนโยบายหลักคือ ควบคุมภาวะเงินเฟ้อโดยจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อโดยอัตราการเพิ่มขึ้นของ CPI จะอยุ่ที่ร้อยละ 6.5-7 ในช่วงปี 2013-2015และจะลดลงต่ำกว่าร้อยละ 5 ในช่วงปีต่อๆไป ซึ่งจากการเป็นฝ่ายรุกดังกล่าวจะสนับสนุนการประสาน 3 นโยบายคือ นโยบายการเงิน นโยบายค่าใช้จ่ายภาครัฐและกระบวนการปรับปรุงค่าบริการและต้องปฏิบัติตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป บนเจตนารมณ์ดังกล่าวต้องมีการประสานงานระหว่างนโยบายเงินตราและค่าใช้จ่ายภาครัฐเพื่อให้ภายใน 3 ปี ยอดเงินลงทุนในภาคสังคมบรรลุร้อยละ 30-32 ของจีดีพี สำหรับนโยบายงบประมาณแผ่นดิน ต้องปรับปรุงเพดานการขาดดุลงบประมาณขึ้นเป็นกว่าร้อยละ4.8 ของจีดีพี ส่วนธนาคารชาติต้องมีนโยบายสินเชื่อที่คล่องตัวมากขึ้น”
สำหรับปัญหาสังคม ผู้แทนรัฐสภาบางท่านได้แสดงความเห็นว่า สถานการณ์เศรษฐกิจ สังคมยังมีปัญหาที่เร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ดังนั้น รัฐบาลต้องมีการประเมินที่สมบูรณ์มากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล การสอนและเรียนพิเศษที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับปัญหาแรงงานและงานทำ นาย Lê Đắc Lâm ผู้แทนรัฐสภาจังหวัด Bình Thuận ได้แสดงความเห็นว่า “แรงงานและงานทำเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจจากสังคม เป็นหนึ่งในเป้าหมายเศรษฐกิจสังคมสำคัญของประเทศ แต่ปัจจุบัน สถานการณ์การว่างงานมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ความซับซ้อนระหว่างการฝึกอบรมกับการแก้ไขปัญหางานทำ โดยเฉพาะการฝึกสอนอาชีพในชนบท ผมขอเสนอให้รัฐบาลต้องมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม มีก้าวกระโดดเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม ต้องชี้นำ ปรับปรุงสถานฝึกสอนอาชีพให้เหมาะสมและเกาะติดความต้องการของประชาชนและสถานประกอบการ”
ในช่วงบ่ายรองนายกฯรัฐมนตรีหวูวันนิงและรัฐมนตรีอีกบางท่านได้ชี้แจงปัญหาต่างๆที่ผู้แทนรัฐสภาให้ความสนใจเช่น อัตราความยากจน เป้าหมายด้านตำแหน่งงาน อัตราคนว่างงาน การฝึกสอนอาชีพ การบริหารของรัฐต่อตลาดทองคำ การแก้ปัญหาหนี้เสีย การปฏิรูปเศรษฐกิจเป็นต้น เกี่ยวกับการแก้ไขหนี้เสีย ผู้ว่าการธนาคารชาติ เหงวียนวันบิ่งเผยว่าภายหลัง1ปีปฏิบัติมาตรการแก้ไข หน่วยงานธนาคารสามารถปรับปรุงหนี้ให้แก่สถานประกอบการได้เกือบ3ล้านล้านด่ง พร้อมทั้งจัดตั้งกองทุนสำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยงและจะชี้นำให้มีการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ต่อไปเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการ เกี่ยวกับโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจ รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนบุ่ยกวางวิงเผยว่า ขณะนี้ทางกระทรวงได้ยื่นเสนอให้รัฐบาลชี้นำการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้แก่กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆเพื่อเร่งรัดการปฏิบัติให้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ดีใน3โครงการใหญ่ของรัฐบาลนั้นนับจนถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมานายกฯได้อนุมัติ99จาก101แผนการปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐของหน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆแล้ว ส่วนจนถึงเดือนพฤษภาคมแผนการปฏิรูปของกลุ่มบริษัท17จาก21แห่งได้รับอนุมัติ ในด้านการปรับปรุงการลงทุนสาธารณะเงินทุนร้อยละ96.5ที่รัฐควบคุมได้รับการจัดสรรคตรงเป้าหมายและจนถึงปี2015จะสามารถแก้ไขปัญหาการลงทุนแบบกระจัดกระจายได้อย่างเด็ดขาด ส่วนในการชี้เเจงนโยบายต่อผู้ยากจนท่านหวูวันนิงรองนายกฯได้เผยว่า ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจยังประสบอุปสรรคมากมาย รัฐบาลยังพยายามสงวนเงินทุนให้แก่โครงการลดความยากจนต่างๆรัฐบาลได้ปฏิบัติระเบียบนโยบายหลายอย่างเพื่อสนับสนุนประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรเช่นเสริมการลงทุนให้แก่ท้องถิ่นที่มีพื้นที่การปลูกข้าว ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ย0%ต่อการรับซื้อจำนำข้าว ปลาสวายและปลาบาซา รัฐสนับสนุนการซื้อประกันให้แก่ผู้ยากจน ตลอดจนกำลังตรวสอบนโยบายขยายกลุ่มเป้าหมายด้านความยากจนและพิจารณาขยายโครงการปล่อยกู้สำหรับชาวประมงเพื่อใช้ลงทุนต่อเรือตั้งแต่90แรงม้าขึ้นไป ในวันเดียวกันรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมฝามทิหายเจวียนได้ชี้แจงปัญหาด้านงานทำและการว่างงาน./.