ที่ประชุมรัฐสภาหารือเกี่ยวกับร่างกฏหมายภาษีเงินได้นิติบุคคลฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม

Chia sẻ
(VOVworld) – บรรดาผู้แทนรัฐสภาส่วนใหญ่ได้แสดงความเห็นพ้องกับกระบวนการลดภาษี แต่เสนอให้การเก็บภาษีทั่วไปร้อยละ 20 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมปี 2014 เป็นต้นไปเพื่ออำนวยความสะดวกสถานประกอบการภายในประเทศผลิตและประกอบธุรกิจ
ที่ประชุมรัฐสภาหารือเกี่ยวกับร่างกฏหมายภาษีเงินได้นิติบุคคลฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม - ảnh 1
ที่ประชุมรัฐสภาหารือเกี่ยวกับร่างกฏหมายภาษีเงินได้นิติบุคคลฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม (vietnamnet.vn)

(VOVworld) – เช้าวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่ 5 สมัยที่ 13 ได้หารือเกี่ยวกับร่างกฏหมายภาษีเงินได้นิติบุคคลฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม   ร่างกฏหมายฉบับนี้จะเน้นแก้ไขกลุ่มปัญหา เช่น การเพิ่มเติมนโยบายที่ให้สิทธิพิเศษด้านภาษีสำหรับหน่วยงาน แขนงอาชีพและเขตพื้นที่ซึ่งที่น่าสนใจคือเพื่อปฏิบัติยุทธศาสตร์การปฏิรูปภาษีจนถึงปี 2020 ร่างกฏหมายฉบับนี้ได้กำหนดว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2014  จะใช้ฃอัตราภาษีทั่วไปที่ร้อยละ 22 แทนร้อยละ 25 ส่วนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2016 อัตราภาษีทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 20 และสิทธิพิษด้านภาษีร้อยละ 20 จะถูกปรับลดเหลือร้อยละ 17

บรรดาผู้แทนรัฐสภาส่วนใหญ่ได้แสดงความเห็นพ้องกับกระบวนการลดภาษี แต่เสนอให้การเก็บภาษีทั่วไปร้อยละ 20 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมปี 2014 เป็นต้นไปเพื่ออำนวยความสะดวกสถานประกอบการภายในประเทศผลิตและประกอบธุรกิจและแนวโน้มของภูมิภาค นาย Đỗ Văn Vẻ ผู้แทนรัฐสภาจังหวัด Thái Bình ได้แสดงความเห็นว่าปัจจุบันและในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สถานประกอบการยังคงประสบอุปสรรค์มากมาย เมื่อปฏิบัติโครงการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ สถานประกอบการที่กำลังประกอบธุรกิจต้องแก้ไขอุปสรรค์ด้านการเงินเนื่องจากผลกระทบของการพัฒนาร้อน ดังนั้น ถ้าหากพวกเราลดภาษีลงเหลือร้อยละ 20 ทันทีจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่สถานประกอบการ รัฐและสถานประกอบการร่วมกันแบ่งเบาความยากลำบาก สร้างพลังขับเคลื่อนและความเชื่อมั่นให้แก่สถานประกอบการ นอกจากนั้น สถานประกอบการเวียดนามต้องแข่งขันกับสถานประกอบการที่มีเงินลงทุนจากต่างประเทศและต้องมุ่งไปยังตลาดต่างประเทศ ดังนั้นผมขอเสนอให้ลดอัตราการเก็บภาษีลงเหลือร้อยละ 20 และลดเหลือร้อยละ 18 ในปีต่อๆไปให้แก่ทุกสถานประกอบการเพื่อค้ำประกันความเสมอภาคในการแข่งขัน”   เช้าวันเดียวกัน ที่ประชุมรัฐสภาได้รับฟังรายงานการตรวจสอบร่างกฏหมายการรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน 

บ่ายวันเดียวกัน รัฐสภาได้อภิปรายเนื้อหาที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันของร่างกฏหมายการศึกษาด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงโดยเน้นประเมินการเผยแพร่การป้องกันประเทศและความมั่นคงในโรงเรียน มหาวิทยาลัยและในหมู่ประชาชน เกี่ยวกับการศึกษาการป้องกันประเทศและความมั่นคงในโรงเรียน บรรดาผู้แทนเห็นชอบให้การศึกษาด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงสำหรับนักเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาตอนต้นควรสอดแทรกกับเนื้อหาของวิชาต่างๆในหลักสูตรการศึกษา ประสานกับกิจกรรมนอกหลักสูตร  คุณLê Hiền Vân ผู้แทนรัฐสภากรุงฮานอยกล่าวว่า การศึกษาด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงให้แก่พลเมืองมีความสำคัญในยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศและความมั่นคงของแต่ละประเทศ การกำหนดการศึกษาด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงในโรงเรียนเป็นสิ่งที่สอดคล้อง ส่วนคุณNgô Thị Minh ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดกว้างนิงกล่าวว่า “การศึกษาด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงในโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาตอนต้นควรสอดแทรกกิจกรรมของกองยุวชนและกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ และควรแก้ไขมาตราที่๑๐ดังนี้ การศึกษาด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงในโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาตอนต้นได้รับการสอดแทรกเข้ากับเนื้อหาของวิชาต่างๆในหลักสูตรการศึกษา โดยประสานกับกิจกรรมนอกหลักสูตรและกิจกรรมของกองยุวชนและกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ให้สอดคล้องกับวัยวุฒิเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเกียรติประวัติการสร้างและรักษาประเทศของประชาชาติ”ผู้แทนจำนวนหนึ่งเห็นว่า ร่างกฏหมายควรกำหนดว่า การเผยแพร่ ฝึกอบรมและให้การศึกษาด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงต้องสอดคล้องกับแต่ละเป้าหมาย ควรมีแผนการฝึกอบรมเฉพาะและสอดคล้องกับเป้าหมายที่เป็นนักเรียนและนักศึกษาในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และเจ้าหน้าที่ข้าราชการ  ในวันที่๓๐เดือนนี้ รัฐสภาจะอภิปรายถึงการประเมินเพิ่มเติมผลของการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคม งบประมาณแผ่นดินปี๒๐๑๒และการปฏิบิติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคม งบประมาณแผ่นดินในช่วงเดือนต้นปี๒๐๑๓./.


Komentar