การขนถ่ายสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนในฉนวนกาซาน ณ บริเวณจุดผ่านแดนราฟาห์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน (THX) |
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ในการกล่าวปราศรัย ณ สำนักงานใหญ่ของคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซี ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม นาย โจเซพ บอเรลล์ (Josep Borrell) ตัวแทนระดับสูงของสหภาพยุโรปหรืออียูที่ดูแลด้านความมั่นคงและนโยบายต่างประเทศได้เสนอว่า อิสราเอลสามารถระงับปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาเพื่อแลกกับการที่สภากาชาดจะได้ติดต่อกับพลเมืองอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน อีกทั้ง แสดงความเห็นว่า มาตรการทางทหารไม่สามารถแก้ไขการปะทะในฉนวนกาซาได้” ถึงแม้ว่าจะไม่มีนักรบของกลุ่มฮามาสในดินแดนนี้ก็ตาม
ในวันเดียวกัน ในการกล่าวปราศรัยในโอกาสเดินทางไปยังกรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนีย นาย Kajsa Ollongren รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์ได้เผยว่า การระงับการปะทะมีความสำคัญต่อการขนส่งสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้แก่ประชาชนในฉนวนกาซา ส่วนนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปประกาศว่า อียูจะเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ฉนวนกาซาอีก 25 ล้านยูโร ซึ่งทำให้ยอดเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนในเขตนี้เพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านยูโร
ในขณะเดียวกัน ในการกล่าวปราศรัยที่กรุงอังการา ประเทศตุรกี นาย แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เผยว่า เขาได้หารือกับนาย ฮาคาน ฟิดาน รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีเกี่ยวกับการแสวงหาวิธีการเพื่อผลักดันความพยายามช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ตลอดจนการแสวงหามาตรการป้องกันไม่ให้การปะทะบานปลายเป็นวงกว้างในภูมิภาค
ในวันเดียวกัน โฆษกของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลหรือ IDF ได้เผยว่า อิสราเอลจะเปิดระเบียงด้านมนุษยธรรมอีกครั้งเพื่อให้ประชาชนปาเลสไตน์จากภาคเหนือของฉนวนกาซาลี้ภัยไปยังภาคใต้เป็นเวลา 4 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ในขณะเดียวกัน การอพยพชาวต่างชาติออกจากฉนวนกาซาก็ได้เริ่มอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน.