ญี่ปุ่นและเวียดนามคือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในเชิงลึก

Chia sẻ
(VOVWORLD) - เมื่อคํ่าวันที่ 8 มิถุนายน นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีพร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางถึงกรุงฮานอย เสร็จสิ้นการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการและเข้าร่วมการประชุมอนาคตของภูมิภาคเอเชียครั้งที่ 23 ตามคำเชิญของนาย ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในระหว่างวันที่ 4 – 8 เดือนนี้
ญี่ปุ่นและเวียดนามคือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในเชิงลึก - ảnh 1 นายกรับมนตรีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

 โอกาสนี้ นาย เลหว่ายจุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับผลการเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุก โดยได้ชี้ชัดว่า ญี่ปุ่นและเวียดนามคือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในเชิงลึก การเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีเวียดนามครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกด้านให้พัฒนาลึกซึ้งมากขึ้นและมีส่วนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในเชิงลึก โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นพ้องเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ในทุกด้านให้พัฒนาตามส่วนลึก

เกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคง ทั้ง 2 ฝ่ายได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่สำคัญและผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน พร้อมทั้งเห็นพ้องที่จะขยายความไว้วางใจทางการเมือง ธำรงการเยือนและการพบปะสังสรรค์ในระดับสูงและหารือถึงปัญหาต่างๆในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกันและยืนยันว่า จะประงานกันอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคีต่างๆ  ญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนเรือลาดตระเวนเพื่อยกระดับทักษะความสามารถให้แก่กองกำลังบังคับใช้กฎหมายทางทะเลของเวียดนาม  สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย การเดินเรือและการบินอย่างเสรี ไม่มีปฏิบัติการทางทหารและปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวที่มุ่งทำลายสภาพเดิม ทำให้ปัญหาการพิพาทซับซ้อนมากขึ้นและผลักดันการแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี ให้ความเคารพกระบวนการทางการทูตและกฎหมาย รวมถึงกฎหมายสากลและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ปฏิบัติแถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพและมุ่งจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว

สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ญี่ปุ่นยืนยันที่จะสงวนเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือโอดีเอให้แก่เวียดนามเพื่อทำการปฏิรูปในด้านต่างๆ ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ฝึกอบรมแหล่งบุคลากรและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.

Komentar