ภาพของการพบปะ |
ในการกล่าวปราศรัยในพิธี นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังอยู่ในระยะการพัฒนาที่ดีที่สุด พร้อมทั้ง แจ้งให้บรรดานักลงทุนรับทราบเกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนที่น่าสนใจและโอกาสการลงทุนในเวียดนาม อีกทั้ง ชื่นชมความคิดเห็นของผู้บริหารสถานประกอบการญี่ปุ่น สำหรับปัญหาการยกเว้นวีซ่าแบบเพียงฝ่ายเดียว นายกรัฐมนตรีได้เผยว่า นับตั้งแต่วันที่1กุมภาพันธ์ปี2017 เวียดนามได้ออกวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ระยะเวลา2ปีเป็นการนำร่องให้แก่พลเมืองของ40ประเทศ รวมทั้ง ญี่ปุ่น สำหรับข้อเสนอของสถานประกอบการญี่ปุ่นเกี่ยวกับการลดภาษีนำเข้าน้ำมัน นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เผยว่า เวียดนามและญี่ปุ่นได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีและปัจจุบัน เวียดนามกำลังปฏิบัติตามข้อตกลงนี้
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ยังชื่นชมสถานประกอบการญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม พร้อมทั้ง แสดงความประสงค์ว่า หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ของเวียดนามเป็นนักลงทุนญี่ปุ่น ควบคู่กับการที่บริษัทมิตซูบิชิผลิตเครื่องบินในเวียดนาม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้แสดงความประสงค์ว่า สถานประกอบการญี่ปุ่นจะช่วยเหลือให้เวียดนามเข้าร่วมห่วงโซ่การจัดสรรอะไหล่ด้านการบินและอวกาศ ขยายการผลิตอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เวียดนาม
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาที่บรรดานักลงทุนให้ความสนใจ เช่น การพัฒนาการบริการโลจิสติก การก่อสร้างโรงไฟฟ้า การผลิตพลังงานสะอาดในเวียดนาม เป็นต้น
ในบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เดินทางไปเยือนจังหวัดโอซาก้าและเข้าร่วมการเสวนากับผู้บริหารสถานประกอบการและเครือบริษัทใหญ่30แห่งของเขตคันไซ ในการนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้เผยว่า เวียดนามมีความต้องการด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับคุณภาพของแหล่งบุคลากร พร้อมทั้ง ชี้นำการปฏิบัตินโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมการสนับสนุน อุตสาหกรรมรถยนตร์ พลังงาน ตลาดขายปลีก สาธารณสุขและมีความประสงค์ที่จะดึงดูดการลงทุนจากเวียดนาม.