การประกาศคำเรียกร้องลุกขึ้นสู้ ณ กรุงฮานอย เดือนธันวาคมปี1946 |
ในระหว่างวันที่ 18-19 ธันวาคมปี 1946 ประธานโฮจิมินห์เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคที่จัดขึ้น ณ หมู่บ้านหวานฟุก เขตฮาดง และได้ตัดสินใจเปิดขบวนการลุกขึ้นสู้ในทั่วประเทศ วางแนวทางหลักของกระบวนการลุกขึ้นสู้และผ่านความเห็นชอบคำเรียกร้องให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมใจลุกขึ้นสู้ที่ประธานโฮจิมินห์เป็นผู้เขียน ซึ่งในนามคณะกรรมการกลางพรรคและรัฐบาล ท่านได้เขียนคำเรียกร้องปลุกเร้าประชาชนทั้งประเทศลุกขึ้นต่อสู้กับกองกำลังนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและในเวลา20.00น ของวันที่19ธันวาคมปี 1946เสียงปืนใหญ่ จากป้อมปราการ ล้าง ได้ดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณแห่งการเปิดกระบวนการลุกขึ้นต่อสู้กับศัตรูผู้รุกรานในทั่วประเทศ พร้อมคำเรียกร้องของประธานโฮจิมินห์ที่มีท่อนหนึ่งความว่า “ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ผู้สูงอายุหรือคนรุ่นเยาว์ ไม่จำแนกว่าจะนับถือศาสนาที่แตกต่างกันหรือเป็นคนชนเผ่าใดก็ตาม แค่ถือว่าตนเองเป็นคนเวียดนามก็ขอให้พร้อมใจลุกขึ้นต่อสู้ขับไล่นักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสเพื่อกู้ชาติ”
75ปีได้ผ่านพ้นไปแต่คำเรียกร้องดังกล่าวยังคงก้องกังวานในจิตใจของชาวเวียดนามเพื่อเตือนให้จดจำเสี้ยวนาทีแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชาติโดยเฉพาะปัจจุบันนี้ คำเรียกร้องดังกล่าวก็ยิ่งมีความหมายเมื่อทั้งประเทศกำลังต้องพยายามร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันความยากลำบากในการป้องกันโควิด-19ควบคู่กับการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งท่ามกลางความผันผวนซับซ้อนของการระบาดใหญ่ กองทัพและประชาชนทั้งประเทศได้ขานรับคำเรียกร้องของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงวียนฟู้จ๋องที่ว่า “จงต่อสู้กับโรคระบาดเหมือนต่อสู้กับศัตรูผู้รุกราน” การปกป้องสุขภาพและชีวิตของงประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งในเดียวของคนทั้งชาติ เวียดนามกำลังสามัคคีฟันฝ่าวิกฤตและความสูญเสียเพื่อตั้งใจความคุมโรค นำประเทศเข้าสู่ระยะชีวิตวิถีใหม่ ที่ชีวิตความเป็นอยู่กลับเข้าสู่ภาวะเสถียรภาพ การผลิตและการพัฒนาเศรษฐกิจได้รับการฟื้นฟูอย่างเข้มแข็ง.
|
ในโอกาสนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมรำลึกอย่างเป็นรูปธรรมในท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ เช่น ณ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งกองทัพเวียดนามที่กรุงฮานอยได้มีการจัดนิทรรศการ “คำสาบานพร้อมสละชีพเพื่อชาติ” ที่นครไฮฟอง มีกิจกรรมจัดแสดงภาพโพสเตอร์ประชาสัมพันธ์ ณ จตุรัสโรงละครไฮฟอง ที่จังหวัดเลิมด่ง ได้มีการจัดแสดงหนังสือประวัติศาสตร์และวรรณคดีสะท้อนช่วงประวัติศาสตร์ที่รุ่งโรจน์นับตั้งแต่หลังการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ณ หอสมุดของจังหวัด ส่วนทางสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้จัดการสัมมนาทางวิชาการในหัวข้อ “การลุกขึ้นสู้ทั่วประเทศ ความมุ่งมั่นปกป้องเอกราช เสรีภาพและบทเรียนต่อภารกิจการสร้างสรรค์พัฒนาประเทศในปัจจุบัน”.