คำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการในกรุงเฮกหรือพีซีเอต้องได้รับการเคารพ

Chia sẻ
(VOVWORLD) - ประชาคมโลกมีความวิตกกังวลเป็นพิเศษต่อการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายของจีนในทะเลตะวันออก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยกรณีฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องจีนเรื่องข้อพิพาทในทะเลตะวันออกของศาลอนุญาโตตุลาการในกรุงเฮกหรือพีซีเอเมื่อปี 2016
คำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการในกรุงเฮกหรือพีซีเอต้องได้รับการเคารพ - ảnh 1การก่อสร้างและซ่อมแซมเกาะเทียมอย่างผิดกฎหมายของจีนในทะเลตะวันออก (Reuters)

นี่ถือเป็นพื้นฐานให้แก่การแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออก นี่คือข้อสังเกตของประชามติในโอกาสครบรอบ 5ปีที่ศาลอนุญาโตตุลาการในกรุงเฮกหรือพีซีเอได้ออกคำวินิจฉัยกรณีฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องจีนเรื่องข้อพิพาทในทะเลตะวันออก

วันที่ 12 กรกฎาคม ประเทศต่างๆได้ออกประกาศยืนยันถึงคุณค่าทางนิตินัยและความสำคัญของคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลฯในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในทะเลตะวันออก นาย Atony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ย้ำว่า ความเป็นระเบียบในการเดินเรือตามกฎหมายสากลในทะเลตะวันออกกำลังมีความท้าทายที่สำคัญกว่าภูมิภาคอื่นเพราะจีนได้ข่มขู่และบังคับประเทศริมฝั่งทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคุกคามต่อการเดินเรืออย่างเสรีในภูมิภาคนี้

ส่วนรัฐบาลแคนาดาได้แสดงความวิตกกังวลต่อการกระทำต่างๆของจีน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศต่างๆปฏิบัติตามแถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีเมื่อปี 2002 เรียกร้องให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคใช้ความอดกลั้น หลีกเลี่ยงปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นและคุกคามต่อเสถียรภาพในทะเลตะวันออก

ส่วนประกาศเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมของกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลฯมีข้อผูกมัดทางกฎหมายต่อฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องตามอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 หรือ UNCLOS ซึ่งฝ่ายต่างๆต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลฯอย่างจริงจัง การที่จีนปฏิเสธคำวินิจฉัยดังกล่าวถือเป็นการเดินสวนทางกับกระบวนการแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล และหวังว่า การที่ฝ่ายต่างๆปฏิบัติตามคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลฯจะช่วยแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกอย่างสันติ

ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียได้ยืนยันว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลฯเนื่องจากมีข้อผูกมัดทางกฎหมาย พร้อมทั้งยืนยันว่า การปฏิบัติตามกฎหมายสากลคือพื้นฐานให้แก่สันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง เสถียรภาพและเอื้อให้แก่การแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติ.

Komentar