ในการหารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ผู้แทนหลายคนได้เห็นพ้องต่อความจำเป็นที่ต้องแก้ไขกฎหมายฉบับนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของสถานการณ์ที่เป็นจริงและผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะใหม่ โดยมีการเพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะวิชาชีพ การสนับสนุนการฝึกอบรมและยกระดับทักษะฝีมือให้แก่แรงงานในยุคแห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก นาง เจิ่นถิแทงลาม ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดเบ๊นแจได้ย้ำถึงคุณภาพแรงงานต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม โดยกล่าวว่า
“องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ถือว่า ทักษะวิชาชีพจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนานาชาติในตลาดแรงงานในอนาคต เพราะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน แรงงานฝีมือดีจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิต ดิฉันคิดว่า จำเป็นต้องจัดทำมาตรฐานของคุณภาพแรงงานตามแต่ละระดับ”
ส่วนนาย เจืองซวนกื่อ ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยให้ความสนใจถึงแรงงานสูงวัยและมีทักษะดี โดยเสนอว่า
“ปัจจุบันนี้ เรามี ศ. และ รองศ.กว่า 40,000 คน ซึ่งในนั้นเป็น ศ.ที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศหลายคน ดังนั้น ในศักราชใหม่ เราไม่ควรส่งออกแรงงานเท่านั้น หากยังต้องให้ความสนใจถึงการส่งเสริมทักษะความสามารถของบรรดาผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ เพราะเป็นการส่งเสริมสถานะและชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ”
ก่อนหน้านั้น สภาแห่งชาติได้ลงคะแนนอนุมัติกฎหมายการป้องกันทางอากาศประชาชน และมติของสภาแห่งชาติเกี่ยวกับแนวทางการลงทุนให้แก่โครงการเป้าหมายแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาวัฒนธรรมระยะปี 2025 - 2035
ส่วนในช่วงบ่าย ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายภาษีสรรพสามิตฉบับแก้ไข โดยจะทำการแก้ไขตามแนวทางปฎิรูประบบนโยบายด้านภาษีและปฏิบัติตามคำมั่นระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อมีส่วนร่วมกำหนดแนวทางการผลิตและประกอบธุรกิจ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ยื่นเสนอต่อสภาแห่งชาติเกี่ยวกับแนวทางการลงทุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นิงถ่วน โดยระบุถึงความจำเป็นในการพัฒนาไฟฟ้านิวเคลียร์ในเวียดนาม เพื่อเพิ่มความหลากหลายของแหล่งจัดสรรไฟฟ้าและค้ำประกันความมั่นคงด้านพลังงาน
ในบ่ายวันเดียวกัน สภาแห่งชาติได้อนุมัติกฎหมายประกันสุขภาพและมติอีกบางฉบับ./.