ผลักดันการวางผังระดับภูมิภาคเพื่อสร้างก้าวกระโดดใหม่ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ (baochinhphu.vn)

มติของสภาแห่งชาติเกี่ยวกับการวางผังแบบบูรณาการแห่งชาติในช่วงปี 2021-2030 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2050 กำหนดแนวทางการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและสังคม พื้นที่พัฒนาประเทศแบ่งเป็น 6 เขตเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่เขตภูดอยและเขตเขาในภาคเหนือ เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง ภาคกลางตอนบน เขตชายฝั่งในภาคกลาง เขตเตยเงวียน เขตภาคใต้ฝั่งตะวันออกและเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งในนั้น 6 จังหวัดและนครสังกัดส่วนกลาง และเขตภาคใต้ตะวันออกเป็นเขตที่มีพื้นที่เล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ แต่เป็นหัวเรือทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การส่งออก การสมทบรายได้เข้างบประมาณแผ่นดินและการสร้างงานทำ

ปฏิบัติการวางผังเขตตะวันออกเฉียงใต้ควบคู่กับการวางผังแบบบูรณาการแห่ชาติ

ตามการวางผังเขตภาคใต้ฝั่งตะวันออกที่นายกรัฐมนตรีประกาศใช้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว  ท้องถิ่นในภูมิภาคมีโอกาสในการเปลี่ยนแปลงที่น่าประทับใจ แนวทางของการวางผังเขตภาคใต้ฝั่งตะวันออกในช่วงปี 2021-2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2050 คือการสร้างก้าวกระโดดเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค โดยเน้นถึงการพัฒนาระบบคมนาคมที่พร้อมเพรียงและทันสมัยในเขตภาคใต้ฝั่งตะวันออกโดยมีรูปแบบการขนส่ง 5 รูปแบบ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนการค้าทั้งภายในและต่างประเทศ เขตภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะเป็นหัวเรือเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัล สังคมดิจิทัล ศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การค้า วัฒนธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ เป็นที่ตั้งของสถาบันการเงินระหว่างประเทศและกลุ่มบริษัททางเศรษฐกิจใหญ่ๆของโลก มีสถานะและบทบาทที่โดดเด่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีการพัฒนาทัดเทียมกับเมืองใหญ่ๆในภูมิภาคเอเชีย ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมสภาประสานงานเขตภาคใต้ฝั่งตะวันออกครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กำชับว่า

“ต้องดำเนินการวางผังอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม ประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างท้องถิ่น กระทรวง และหน่วยงานในภูมิภาค เพื่อร่วมกันแก้ไขอุปสรรคและเปิดการเชื่อมโยงในภูมิภาค ผมขอเสนอให้เน้นผลักดันการปฏิบัติงานใน 3 ด้าน 1 คือ ส่งเสริมการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐเพื่อเป็นผู้นำและดึงดูดแหล่งพลังการลงทุนของสังคมให้แก่การพัฒนาภูมิภาคอย่างรวดเร็วและยั่งยืน 2 คือ ส่งเสริมนวัตกรรม การประยุกต์ใช้การปฏิวัติ 4.0 อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นถึงอุตสาหกรรมที่เพิ่งเกิดใหม่ เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน ด้านที่กำลังพัฒนา เช่น ชิปเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ การประมวลผลแบบคลาวด์และไฮโดรเจน เป็นต้น 3 คือ ส่งเสริมการฝึกอบรมบุคลากรที่มีคุณภาพสูงและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำเพื่อสร้างแรงจูงใจใหม่ มีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติ 1 ใน 3 ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ได้วางไว้”

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง (VGP)

ส่งเสริมการเชื่อมโยงระดับภูมิภาค สร้างก้าวกระโดดในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

มติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ได้ระบุว่า การจัดทำการวางผังและพื้นที่อาณาเขตของประเทศอย่างเหมาะสม ส่งเสริมความได้เปรียบเฉพาะของแต่ละภูมิภาคและท้องถิ่นให้ดีที่สุด และส่งเสริมความเชื่อมโยงภายในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาคเพื่อเข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่าระดับโลกและสร้างพื้นที่การพัฒนาใหม่ การใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของภูมิภาคเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน สภาพธรรมชาติ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์การเมืองและบุคลากรในสภาวการณ์และความต้องการพัฒนาใหม่เป็นอย่างดี พัฒนาแบบบูรณาการ เกิดประโยชน์ มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดระหว่างท้องถิ่นในภูมิภาคให้เป็นหนึ่งเดียว

ซึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาภูมิภาคที่ได้วางไว้ ในเวลาที่ผ่านมา ท้องถิ่นต่างๆในเขตภาคใต้ฝั่งตะวันออก และ 5 เขตเศรษฐกิจและสังคมที่เหลือของประเทศได้ระดมพลังทุกแหล่งเพื่อปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานให้มีความสมบูรณ์ตามแนวทางที่พร้อมเพรียงและทันสมัย โดยเน้นเร่งดำเนินโครงการระดับชาติที่สำคัญๆ ให้เสร็จเรียบร้อย เปิดใช้โครงการโดยเร็วเพื่อมีส่วนร่วมต่อการส่งเสริมการเติบโตและสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ปัจจุบัน จำนวนโครงการถนนไฮเวย์ที่กำลังได้รับการก่อสร้างทั่วประเทศ รวมประมาณ 1,700 กม. ตั้งแต่โครงการถนนไฮเวย์เหนือจรดใต้ โครงการเชื่อมโยงตะวันออก-ตะวันตก การเชื่อมโยงเขตตะวันตกเฉียงเหนือและเขตเตยเงวียน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 1,200 กม. ภายในปี 2025 ซึ่งจะทำให้จำนวนถนนไฮเวย์ทั้งหมดในประเทศอยู่ที่กว่า 3,000 กม. นอกจากนั้น กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆกำลังพยายามดำเนินโครงการไฟฟ้า 3 เฟส 500 kV ตั้งแต่ช่วงกว๋างแจก จังหวัดกว๋างบิ่งห์ ถึงโฟ้โน้ย จังหวัดฮึงเอียน โดยจะพยายามเปิดใช้โครงการในโอกาสรำลึกการปฏิวัติเดือนสิงหาคมและวันชาติ 2 กันยายนในปีนี้ ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมครั้งที่ 13 คณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับโครงการสำคัญระดับชาติของหน่วยงานคมนาคมขนส่ง เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง หัวหน้าคณะกรรมการฯ ได้ย้ำว่า

“โครงการที่กำลังปฏิบัติและก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สร้างพื้นที่การพัฒนาใหม่ สร้างเขตนิคมอุตสาหกรรม แหล่งบริการ แหล่งท่องเที่ยว เพิ่มมูลค่าเพิ่มของที่ดิน ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้า โดยเฉพาะสร้างงานทำและการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชน เราต้องมีความมุ่งมั่นและความพยายามมากขึ้น และมีปฏิบัติการที่เข้มแข็งมากขึ้น การชี้นำต้องเน้นถึงปัญหาที่สำคัญๆ”

การวางผังการพัฒนา 6 ภูมิภาคในช่วงปี 2021-2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2050 ที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศใช้เป็นการแปรการวางผังแบบบูรณาการแห่งชาติอย่างเป็นรูปธรรม สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางใหญ่ๆและขั้นพื้นฐานของการวางผังแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดพื้นที่การพัฒนา ช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนแห่งการพัฒนา ศักยภาพการพัฒนาและพื้นที่การพัฒนาใหม่ของประเทศ ภูมิภาคและพื้นที่พัฒนาของแต่ละท้องถิ่น การปฏิบัติการวางผังการพัฒนาตามภูมิภาคจะมีส่วนร่วมแก้ไขอุปสรรคและสร้างก้าวกระโดดใหม่ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจของประเทศ.