ภาพการเสวนา (VNA)

ในการนี้ บรรดาผู้แทนได้ประเมินว่า ยุทธนาการเดียนเบียนฟูคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของประชาชนเวียดนามและประชาชาติที่ถูกกดขี่ขูดรีดในทั่วโลกและแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญที่มีความหมายชี้ขาดของประธานโฮจิมินห์และพลเอก หวอเงวียนยาป ศ. Joni Asi นักกฎหมายระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัย Nablus ได้ยืนยันว่า ชัยชนะเดียนเบียนฟูได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่การต่อสู้ของประเทศในซีกโลกใต้เพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยมและลัทธิล่าอาณานิคมเพื่อช่วงชิงเอกราชและความยุติธรรม พร้อมทั้งเผยว่า ผลสำเร็จของยุทธนาการเดียนเบียนฟูมาจากการลำเลียงเสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์ ความสามัคคีและความร่วมแรงร่วมใจระหว่างผู้นำกับประชาชน รวมถึงการชี้นำที่ปรีชาสามารถของบรรดาผู้นำเวียดนามในสมัยนั้น

ส่วนนาย Khaled Khalafe  ประธานสภาการต่างประเทศโลกอาหรับได้เผยว่า ชัยชนะเดียนเบียนฟูปี 1954 คือนิมิตหมายที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติเวียดนาม สร้างบทเรียนเกี่ยวกับความสามัคคีในภารกิจการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชและมีส่วนร่วมขจัดลัทธิล่าอาณานิคมในทั่วโลก พร้อมทั้งเผยว่า ตนและคณะผู้แทนนักธุรกิจและนักวิชาการชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับได้เดินทางมายังเวียดนามหลายครั้งเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านธุรกิจและขยายความเข้าใจระหว่างกัน โดยเศรษฐกิจเวียดนามเป็นดาวรุ่งในเอเชีย.