การเชิดชูกฎบัตรสหประชาชาติเหมือนหลักปฏิบัติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

Chia sẻ
(VOVWORLD) -ในกรอบการประชุมหารือระดับสูงของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 75 ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 22 -29 กันยายน ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 25 กันยายน ตามเวลาเวียดนาม ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามได้ส่งสารที่สำคัญถึงการประชุม  
การเชิดชูกฎบัตรสหประชาชาติเหมือนหลักปฏิบัติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - ảnh 1ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนาม (Photo: TTXVN) 

ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามได้ชื่นชมหัวข้อของการประชุมครั้งนี้คือ “อนาคตที่พวกเราต้องการ สหประชาชาติที่พวกเราต้องการ ยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นต่อลัทธิพหุภาคี-รับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19ผ่านปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ”  พร้อมทั้งเห็นว่า ต้องให้ความเคารพและส่งเสริมกลไกลพหุภาคีในภูมิภาคและโลก ซึ่งกฎบัตรสหประชาชาติและหลักการขั้นพื้นฐานของกฎหมายสากลต้องได้รับการยกย่องเหมือนหลักปฏิบัติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

บนเจตนารมณ์ดังกล่าว เวียดนามเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียวที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศต่างๆ รวมทั้ง มาตรการคว่ำบาตรต่อคิวบา

ในฐานะประเทศสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020 -2021 เวียดนามจะพยายามผลักดันการสนทนา ลดความตึงเครียดและการเผชิญหน้า แสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก  ส่งเสริมลัทธิพหุภาคี ให้ความเคารพกฎหมายสากลและกฎบัตรสหประชาชาติ ผลักดันความร่วมมือระหว่างสหประชาชาติกับองค์การต่างๆในภูมิภาค โดยเฉพาะ อาเซียน

ในฐานะประธานอาเซียนปี 2020 เวียดนามและประเทศสมาชิกอื่นๆกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสร้างสรรค์ภูมิภาคที่มีสันติภาพ มิตรภาพและความร่วมมือ สร้างสรรค์ประชาคมที่มีการเชื่อมโยงด้านการเมือง เศรษฐกิจและแบ่งเบาความรับผิดชอบทางสังคม เวียดนามจะร่วมกับประเทศต่างๆส่งเสริมการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยเฉพาะ อนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ใช้ความอดกลั้นและหลีกเลี่ยงปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวที่ทำให้สถานการณ์ทวีความซับซ้อนมากขึ้น แก้ไขปัญหาการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติ รวมทั้ง กระบวนทางการทูตและนิตินัย.

Komentar