การประชุมรัฐมนตรีกึ่งวาระครั้งที่ 18 ของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในระหว่างวันที่ 5 - 6 เมษายน ณ กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีกึ่งวาระครั้งที่ 18 ของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในหัวข้อ “ส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยมีตัวแทนจาก 69 ประเทศสมาชิก รวมถึงประเทศและองค์การผู้สังเกตการเข้าร่วม ซึ่งคณะผู้แทนเวียดนามนำโดยนาย ดั่งดิ่งกวี๊ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
การประชุมรัฐมนตรีกึ่งวาระครั้งที่ 18 ของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด - ảnh 1นาย ดั่งดิ่งกวี๊ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (Photo: VNA) 

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย ดั่งดิ่งกวี๊ ได้ย้ำว่า ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดต้องเดินหน้าในการผลักดันการค้ำประกันสันติภาพและความมั่นคงบนพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการปะทะและสงคราม ต้องผลักดันการแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี ใช้ความอดกลั้น ไม่ใช้ หรือ ข่มขู่ที่จะใช้กำลัง พร้อมทั้งยืนยันว่า เวียดนามและประเทศสมาชิกอาเซียนได้ให้ความเคารพและเชิดชูหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก เวียดนามเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆใช้ความอดกลั้น แก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ให้ความเคารพกระบวนการทางการทูต กฎหมาย แถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและมุ่งสู่การบรรลุร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว

ที่ประชุมได้อนุมัติเอกสารของการประชุมระดับรัฐมนตรี โดยระบุถึงจุดยืน หลักการ ยืนยันถึงคำมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รับทราบถึงความพยายามของอาเซียนในการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ส่งเสริมบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างในภูมิภาค เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี คัดค้านมาตรการคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียว เรียกร้องให้ยุติมาตรการคว่ำบาตรต่อคิวบา สนับสนุนสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนปาเลสไตน์

นอกรอบการประชุม นาย ดั่งดิ่งกวี๊ได้พบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซอร์ไบจาน รวมทั้งคณะผู้แทนประเทศต่างๆ เช่น นิการากัว เวเนซุเอลา โบลิเวีย แอฟริกาใต้ เป็นต้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือด้านการเมือง การทูต เศรษฐกิจ การค้า การศึกษาและในกรอบฟอรั่มพหุภาคี.

Komentar