การประชุมของรัฐสภายุโรป |
ในการตอบคำถามของนักข่าว นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า การที่รัฐสภายุโรปให้สัตยาบันข้อตกลง 2 ฉบับดังกล่าวด้วยเสียงสนับสนุนข้างมากเป็นการแสดงให้เห็นถึงการชื่นชมของบรรดาส.ส.และประเทศสมาชิกอียูเกี่ยวกับบทบาทและสถานะของเวียดนามและความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองฝ่าย ซึ่งข้อตกลง 2 ฉบับนี้จะสร้างกรอบความร่วมมือทวิภาคีในระยะยาวตามแนวทางหุ้นส่วนที่มีความเสมอภาค เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน มีส่วนร่วมต่อการผลักดันการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน การอนุมัติข้อตกลง FTA ฉบับแรกระหว่างอียูกับประเทศที่กำลังพัฒนาเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของอียูในการส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนบนพื้นฐานของกฎหมายต่างๆ ซึ่งมีความหมายที่สำคัญในสภาวการณ์ที่ลัทธิคุ้มครองการค้ากำลังคุกคามต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ภูมิภาคและประเทศต่างๆ
หลังจากที่ข้อตกลง EVFTA มีผลบังคับใช้ อียูจะยกเลิกภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากเวียดนามเกือบร้อยละ 86และภายใน 7 ปี จะยกเลิกภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากเวียดนามร้อยละ 99 ส่วนเวียดนามก็ให้คำมั่นที่จะยกเลิกภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากอียูร้อยละ 48.5และภายใน7 ปี จะยกเลิกภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากอียูร้อยละ91.8และภายใน 10ปีจะอยู่ที่ร้อยละ 98.3 ในสภาวการณ์ที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศต่างๆทวีความรุนแรงมากขึ้น ข้อตกลง EVFTAจะช่วยให้สถานประกอบการเวียดนาม ครองส่วนแบ่งที่มั่นคงในตลาดอียู
เพื่อให้ข้อตกลง EVFTA มีผลบังคับใช้โดยเร็ว สำนักงานต่างๆที่เกี่ยวข้องของเวียดนามต้องเร่งเสร็จสิ้นการปฏิบัติระเบียบการต่างๆเพื่อยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติพิจารณาให้สัตยาบัน กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการต่างๆต้องวางแผนการปฏิบัติข้อตกลง การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ค่ำมั่นต่างๆที่ให้ไว้ในข้อตกลงเพื่อใช้โอกาสและรับมือความท้าทายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติ.