ตัวแทนระดับสูงเกี่ยวกับนโยบายด้านการต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรปหรืออียูและรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Josep Borrell (AFP) |
นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับอียู พร้อมหารือกับอียูเกี่ยวกับปัญหาที่ต่างให้ความสนใจ เสนอให้อียูผลักดันให้รัฐสภายุโรปให้สัตยาบันข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียูหรืออีวีเอฟทีเอและข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-อียูหรืออีวีเอฟพีเอเพื่ออำนวยความสะดวกและนำผลประโยชน์มาสู่สถานประกอบการและประชาชนของทั้งสองฝ่าย
ส่วนนาย Josep Borrell ได้แสดงความเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ในหลายด้าน เช่นการเมือง ความมั่นคง กลาโหม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและประสานงานเข้ารวมกิจกรรมรักษาสันติภาพ
สำหรับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ทั้งสองฝ่ายย้ำว่า ต้องธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและการให้ความเคารพกฎหมาย แก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติและสอดคล้องกับกฎหมายสากล ประสานงานในฟอรั่มพหุภาคี เช่นสหประชาชาติ อาเซม ฟอรั่มของอาเซียน โดยเฉพาะในปี 2020 เมื่อเวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ.