รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ กล่าวปราศรัยในพิธี (zing.vn)

เอกอัครราชทูตโบลิเวีย เอกอัครราชทูตเวเนซุเอลาในกรุงฮานอย หัวหน้าคณะนักการทูตในกรุงฮานอย เอกอัครราชทูต อัครราชทูตและตัวแทนของสถานทูตประเทศสมาชิกอาเซียนในกรุงฮานอย

ในการกล่าวปราศรัยในพิธี นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้ย้ำว่า เมื่อ 51 ปีก่อน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมปี 1967 บรรดาผู้นำอาเซียนได้สร้างพื้นฐานให้แก่ “ประชาคมประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สันติภาพและเจริญรุ่งเรือง” ซึ่งคือประชาคมอาเซียนในปัจจุบันที่สามัคคี พึ่งพาตนเอง ให้การช่วยเหลือกัน แลกเปลี่ยนกัน ของประชาชนและเพื่อประชาชน นั่นคือประชาคมอาเซียนที่สันติภาพ เสถียรภาพ มีเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างคล่องตัวที่มีประชากรกว่า 630 ล้านคน และรายได้เกือบ 2 ล้าน 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบทางสังคม พยายามเพื่อผลประโยชน์และความเจริญรุ่งเรืองของประชาชน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้ย้ำว่า “บทบาทเป็นศูนย์กลาง จิตใจแห่งความสามัคคี เสียงพูดและการขยายผลของประชาคมอาเซียนนับวันมีความเข้มแข็งมากขึ้น ผลักดันและขยายความสัมพันธ์ในหลายด้านกับประเทศใหญ่ๆ หุ้นส่วนในภูมิภาคและโลก ปฏิบัติเป้าหมายร่วมเกี่ยวกับสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา ความยุติธรรมและความยั่งยืน สำหรับเวียดนาม อาเซียนคือหนึ่งในเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศ ในตลอด 23 ปีที่เดินพร้อมกัน อาเซียนได้สร้างนิมิตหมายสำคัญในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสในภูมิภาคและโลกของเวียดนาม”.