(VOVworld) - 40ปีได้ผ่านพ้นไปหลังการปลดปล่อย นครโฮจิมินห์ได้ฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายเพื่อพัฒนาเป็นตัวเมืองพิเศษและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษาและฝึกอบรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเวียดนาม  ส่วนจากมุมมองของประชาชน นครโฮจิมินห์ถือเป็นนครที่คล่องตัว  ทันสมัยและมีความคิดสร้างสรรค์

ถึงแม้นาย เหงวียนหิวท้าย กำลังอาศัยในประเทศแคนาดา แต่ก็ได้รับทราบถึงความยากลำบากของประชาชนไซ่ง่อนในช่วงหลังการปลดปล่อยภาคใต้เนื่องจากเคยปฏิบัติหน้าที่ต่างๆในไซ่ง่อนในช่วงนั้น เช่น กรรมการบริหารกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ เจ้าหน้าที่สถาบันวางผังเมืองของนคร และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยสถาปัตยกรรม  นาย เหงวียนหึ๊วท้าย เล่าให้ฟังว่า "หลังสงคราม ประเทศเวียดนามถูกปิดล้อมโดยไม่ได้รับความช่วยเหลืออีกต่อไป ต้องพึ่งตนเอง  ผมเคยผ่านความยากลำบากทุกอย่างในช่วงปี 1980 – 1990  มาได้และหลังจากเดินทางกลับประเทศจากแคนาดา ผมได้เห็นภาพประเทศเวียดนามแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างแท้จริง  ซึ่งสะท้อนจากการพัฒนาของไซ่ง่อน หรือ นครโฮจิมินห์ในปัจจุบัน"

ในหลายปีที่ผ่านมา ทางการนครได้พัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ปฏิบัติกลไกและนโยบายใหม่ๆที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงโดยเฉพาะการแก้ไขอุปสรรค์ ผลักดันการผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อมีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์และปรับปรุงแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรคและรัฐ  ดอกเตอร์ เจิ่นยูหลิก รองหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์ อดีตหัวหน้าสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนานครโฮจิมินห์กล่าวว่า "นครโฮจิมินห์ได้มีส่วนร่วมสำคัญต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศเนื่องจากเป็นท้องถิ่นนำหน้าในการปฏิบัติรูปแบบการผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์  ส่วนหลังการเปลี่ยนแปลงใหม่ นครโฮจิมินห์ยังคงเป็นท้องถิ่นนำหน้าในการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อการส่งออก การจัดทำกฎหมายนิติบุคคลและกฎหมายสถานประกอบการภาคเอกชน"

จากความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาการที่ก้าวกระโดดดังกล่าว ในช่วงปี 2011 – 2014 อัตราการขยายตัวจีดีพีของนครโฮจิมินห์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 9.6 หรือคิดเป็น 1.7 เท่าเมื่อเทียบกับจีดีพีของทั้งประเทศ  จีดีพีคิดถัวเฉลี่ยต่อหัวประชากรในช่วงปลายปี 2014 อยู่ที่ 5 พันเหรียญสหรัฐ  การพัฒนาเศรษฐกิจของนครโฮจิมินห์ในตลอด 40 ปีที่ผ่านมาได้มีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม รวมทั้งเขตเศรษฐกิจหลักในภาคใต้  ปัจจุบัน จีดีพีของนครโฮจิมินห์คิดเป็นร้อยละ 21 ของจีดีพีของ ประเทศ  สมทบรายได้เข้างบประมาณแผ่นดินร้อยละ 30และเป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่สามารถดึงดูดเงินทุนได้มากที่สุด  นอกจากนี้ ทางการนครได้ลงทุนก่อสร้างเขตตัวเมืองใหม่ที่ทันสมัยและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของนคร เช่น เขตตัวเมืองฟู๊หมิฮึง  เขตตัวเมืองถู่เทียม เขตตัวเมือง เตยบั๊ก ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของนคร ซึ่งได้สร้างโฉมใหม่ที่ทันสมัยให้แก่นคร  นาย ฟานเตี๊ยนดาด เจ้าหน้าที่สมาคมเกษตรกรอำเภอบิ่งแจ๊นห์แสดงความเห็นว่า "หลังการสร้างสรรค์และพัฒนามาเป็นเวลา 40 ปีโฉมหน้าของนครโฮจิมินห์นับวันมีความทันสมัยมากขึ้น โดยมีกิจการสำคัญระดับชาติและภูมิภาค  ผมรู้สึกปลื้มปิติยินดีและโชคดีที่เป็นพลเมืองของนคร"

นครโฮจิมินห์เป็นตัวเมืองพิเศษ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นหัวเรือของเขตเศรษฐกิจหลักในภาคใต้  นอกจากนี้ ในอนาคต นครโฮจิมินห์จะถูกกำหนดให้กลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ประเทศและประชาคมอาเซียน  นาย เลหว่างกวน ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า "ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของนครที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆทั้งในระยะแรกและระยะยาวคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคและสังคมที่พร้อมเพรียง การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบจากนํ้าทะเลหนุนเพราะนครอยู่ตํ่ากว่าระดับนํ้าทะเลและติดกับทะเลด้วย ทางการนครได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวและเตรียมมาตรการแก้ไขในเชิงรุก"

แผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมจนถึงปี 2020 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2025 ของนครโฮจิมินห์ได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะเน้นใช้ประโยชน์จากศักยภาพและจุดแข็งเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับปรุงรูปแบบการขยายตัว ยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน  ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการและอุตสาหกรรม 4 หน่วยงานที่ต้องใช้เทคโนโลยีและมีมูลค่าสูงอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อกลายเป็นท้องถิ่นประสบความสำเร็จในการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยเป็นท้องถิ่นแรก./.