มหาวิหารกาว ด่าย ก็นับเป็นสถานที่สวยงามถือเป็นสถานที่ที่เป็นอันซีน เวียตนาม

ศาสนากาวด่ายถือกำเนิดขึ้นในเวียตนามเมื่อ พ.ศ.2469 โดยปัญญาชนชาวเวียตนามชื่อว่า โง วัน เจียว มีปรัชญาที่ผสมผสานระหว่าง พุทธศาสนา  คริสต์ศาสนา ลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื่อ  และการบูชาบรรพบุรุษ ...กาวด่าย แปลว่า สถานที่สูงสุด หมายถึงที่ที่พระเจ้าประทับอยู่..ศาสนากาวด่ายเชื่อว่าพระเจ้ามีหนึ่งเดียว แต่จะมีสื่อกลางเพื่อนำสารจากพระเจ้ามาแสดงต่อมวลมนุษย์โดยแบ่งเป็นสามยุค ยุคแรกผ่านพระพุทธเจ้า โมเสส ...ยุคที่สองผ่านพระพุทธเจ้า ขงจื่อ เหล่าจื่อ พระเยซู และ โมฮัมหมัด เมื่อผ่านสองยุคแรก คำสอนที่แท้จริงถูกแปดเปื้อนด้วยอวิชชาชองมนุษย์ ยุคที่สามซึ่งเป็นยุคสุดท้ายนั้นจึงจะทำผ่านการทรงเจ้า ผ่านดวงวิญญาณของผู้ที่จากไปแล้วอีกที เช่น วิกเตอร์ ฮูโก้ ซุนยัตเซ็น เชกสเปียร์ ปัจจุบันมีผู้นับถือศาสนากาวด่าย ประมาณ 3 ล้านคนทั่วโลก..มหาวิหารกาวด่าย ตั้งอยู่ที่ จังหวัดเตยนิง ซึ่งจังหวัดนี้ตั้งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ราว 100 กิโลเมตร..เป็นมหาวิหารที่ใหญ่และสวยงามมาก..มีสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ศาสนา กาวด่ายมีปรัชญาที่ผสมผสานคำสอน จากศาสนา และลัทธิใหญ่ๆของโลกมารวมกัน นับเป็นสิ่งที่อเมสซิ่งมากของเวียตนาม..ที่นักท่องเที่ยวชอบ..มหาวิหารกาว ด่าย ก็นับเป็นสถานที่สวยงามถือเป็นสถานที่ที่เป็นอันซีน เวียตนามเลยทีเดียว..ผมมีโอกาสได้แวะไปชมสถานที่แห่งนี้รู้สึกประทับใจชื่น ชอบในสถาปัตยกรรมที่แปลกตา สวยงามและยังทึ่งในแนวคิดของศาสนากาวด่ายนี้มาก...เเนวคิดที่ว่าพระเจ้าสูง สุดมีเพียงองค์เดียวได้แบ่งจิตวิญญาณสร้างสัตว์โลกและธรรมชาติ..ทุกสิ่ง อย่างในโลกนี้..จึงมีวิญญาณของพระองค์สถิตอยู่มีสัญลักษณ์เป็นดวงตาข้าง ซ้าย..แสดงถึงปัญญาและสายตาที่เฝ้ามองให้มนุษย์ทำความดี..มหาวิหารกาวด่ายจะ ตกแต่งด้วยสีฉูดฉาดประกอบด้วย สีเหลืองหมายถึงศาสนาพุทธ สีแดงหมายถึงศาสนาคริสต์ และสีฟ้าหมายถึง ลัทธิเต๋า..ส่วนหลักคำสอนจะกล่าวถึงกฏแห่งกรรมการกลับชาติมาก่อน การหลุดพ้นจากวัฏสงสารเมื่อบรรลุธรรมขั้นสูงสุด การหมั่นทำความดี ละเว้นความชั่ว และเชื่อว่าทุกๆการกระทำจะอยู่ในสายตาของดวงตาข้างนั้นเสมอ...