เราขอเริ่มรายการวันนี้ด้วยอีเมล์จากอาจารย์ เกษม ทั่งทอง โดยอาจารย์ เกษม ทั่งทอง เขียนว่า “สวัสดีครับผู้จัดทำรายการภาคภาษาไทยทุกท่าน ขอบคุณครับสำหรับการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับผลกระทบเนื่องจากน้ำมันแพงในเวียดนาม ไม่ทราบว่าที่เวียดนามมีการประกาศขึ้นราคาน้ำมันล่วงหน้าหรือเปล่า ที่เมืองไทยจะประกาศล่วงหน้าก่อนขึ้นราคาเวลา 05.00น.ในวันรุ่งขึ้น นับจากวันที่ 9 มิถุนายน เป็นต้นมา กัญชาได้ถูกยกเลิกจากบัญชียาเสพติดของไทย โดยจัดเป็นสมุนไพรชนิดควบคุมพิเศษ การปลูก จำหน่าย แปรรูป สามารถกระทำได้ภายใต้การควบคุมของรัฐ โดยมีการจดแจ้งวัตถุประสงค์ในการปลูก ชนิดและพันธุ์ของกัญชา จำนวนต้นที่ขอปลูก มีคำเตือนจากทางราชการให้ระวังการเดินทางไปต่างประเทศ ห้ามนำกัญชาหรือส่วนประกอบของกัญชาติดตัวหรือรับฝาก เช่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ เป็นต้น เพราะจะถูกจับดำเนินคดี เสียค่าปรับ ติดคุก หรือถึงขั้นประหารชีวิต อยากทราบว่ากฎหมายเวียดนามเกี่ยวกับยาเสพติด ลงโทษรุนแรงไหมครับ”

ทางผู้จัดทำรายการขอขอบคุณข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของอาจารย์ เกษม ทั่งทอง นะคะ สำหรับคำถามว่า ที่เวียดนามมีการประกาศขึ้นราคาน้ำมันล่วงหน้าหรือเปล่า สำหรับที่เวียดนามจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันในวันที่ 1, 11 และ 21 ของทุกเดือน ซึ่งถ้าตรงกับวันหยุดก็จะเลื่อนการประกาศออกไปเป็นวันหลังผ่านพ้นวันหยุด   และถ้าหากตรงกับช่วงตรุษเต๊ต ก็จะเลือนการประกาศราคาน้ำมันเป็นหลังช่วงตรุษเต๊ต ส่วนในกรณีถ้าหากราคาน้ำมันมีความผันผวนเป็นอย่างมากทางกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมก็จะรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบเพื่อพิจารณาและตัดสินใจเรื่องช่วงเวลาประกาศและตรึงราคาน้ำมันให้เหมาะสมกับสถานการณ์

สำหรับคำถามเรื่องกฎหมายเวียดนามเกี่ยวกับยาเสพติด มีบทลงโทษที่รุนแรงไหม กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมยาเสพติดของเวียดนามได้ระบุให้ ผู้ค้าและผู้ใช้ยาเสพติดต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง โดยขั้นต่ำสุดคือถูกจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 5 ปี รวมถึงผู้ที่มีไว้ในครอบครอง เช่น ฝิ่น กัญชา หรือสารสกัดจากต้นโคคาน้ำหนักตั้งแต่ 1 กรัม ขึ้นไปและสำหรับ เฮโรอีน โคเคน ยาบ้า แอมเฟตามีน MDMA น้ำหนักตั้งแต่ 0.1 กรัมขึ้นไป

ชีวิตของประชาชนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ส่วนคุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่ม เขียนว่า “แม้ว่าช่วงนี้การระบาดของโควิด 19 จะบรรเทาเบาบางลงบ้างแต่ก็ยังคงเฝ้าระวังกันต่อไป เพราะมีการกลายพันธุ์เกิดขึ้น  หลายประเทศได้เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดำเนินต่อไปหลังจากที่หยุดชะงักมานานพอสมควร แต่ปัญหาที่น่าหนักใจตามมาก็คือค่าครองชีพเริ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน  ทำให้น้ำมันที่เป็นปัจจัยสำคัญด้านเศรษฐกิจปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะหยุดลงเมื่อไร ก็ทำให้ข้าวของต่างๆพากันขึ้นราคาเรียกได้ว่าเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้าเลยทีเดียว แทนที่ปีนี้ประเทศต่างๆจะค่อยๆขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น การดำรงชีวิตจะปรับตัวให้สะดวกสบายขึ้นก็คงจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ขอส่งกำลังใจมายังทีมงานและเพื่อนๆผู้ฟังรายการทุกท่านได้อดทนกันต่อไป  เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ” 

เราขอขอบคุณน้ำใจของคุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่ม ที่ให้กำลังใจกันมานะคะ อันที่จริง การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบวกกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและชีวิตของประชาชนทั่วโลก ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้ต้นทุนสินค้าและบริการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้กลับไม่เพิ่มขึ้น อีกทั้งก็มีหน่วยงานและบริษัทหลายแห่งที่ปรับลดเงินเดือน เราหวังว่า ปัญหานี้จะคลี่คลายและชีวิตของประชาชนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากทางผู้จัดทำรายการเผยแพร่บทความ "มนต์เสน่ห์แห่งตำบลหลุงเวิน จังหวัดหว่าบิ่งห์" คุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่ม ได้เขียนว่า "ธรรมชาติงดงามน่าไปเที่ยวครับ"  ส่วนคุณ มนัสนันท์ การถาง แสดงความสนใจถึงรายการภาษาเวียดนามวันละนิด โดยเขียนว่า "ชอบการเรียนรู้"...