ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนกระจายเสียงต่างประเทศได้รับอีเมล์และคอมเมนต์จากผู้ฟังรวม 392 ฉบับจาก 33ประเทศและดินแดน โดยรายการภาคภาษาไทยได้รับอีเมล์และคอมเมนต์ 9 ฉบับ
(http://www.pct.com.vn/) |
ในอีเมล์ที่ส่งถึงรายการของเรา คุณ ศรายุทธิ์ วุฒิสาร ซึ่งเป็นทนายความในประเทศไทยได้เขียนว่า “เรียน ท่านผู้อำนวยการส่วนกระจายเสียงฯ เนื่องด้วยกระผมเป็นทนายความในประเทศไทยและได้รับการร้องขอจากฝ่ายสามีคนไทยที่จดทะเบียนสมรสกับหญิงเวียดนาม ที่กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ และมีลูกด้วยกัน แต่ได้ทิ้งร้างกันนานกว่า 3 ปีแล้ว ปัจจุบันฝ่ายสามีเป็นผู้ดูแลบุตรที่ประเทศไทยแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยสามีคนไทยประสงค์ใช้สิทธิฟ้องหย่าและใช้อำนาจปกครองบุตรฝ่ายเดียว เพื่อความสะดวกในการเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตรในประเทศไทย เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องสอดคล้องตามกฎหมายของทั้งสองฝ่าย กระผมจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่านเพื่อขอข้อมูลกฎหมายของประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในส่วนที่กำหนดและระบุว่าสามีคนต่างชาติหรือคนไทยสามารถใช้สิทธิฟ้องหย่าและขอใช้อำนาจปกครองบุตรฝ่ายเดียวตามกรณีดังกล่าวได้โดยอ้างอิงจากกฎหมายใด เรื่องใดและมาตราใดตามกฎหมายประเทศของท่านที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน จึงเรียนมาเพื่อขอความอนุเคราะห์เพื่อขอข้อมูลดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และขอขอบคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้”
กฎหมายการสมรสและครอบครัวปี 2014 ตามมาตรา 127 ระบุว่า การหย่ากับคู่สมรสชาวต่างชาติ หรือคู่สมรสทั้งสองฝ่ายเป็นชาวต่างชาติที่กำลังอาศัยในเวียดนามให้เป็นไปตามกฎหมายการสมรสและครอบครัวของเวียดนาม กรณีคู่สมรสสัญชาติเวียดนามไม่ได้อาศัยถาวรในเวียดนาม การหย่าร้างจะต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศที่สามีภรรยาอาศัยอยู่ร่วมกันถาวร แต่ถ้าสามีภรรยาไม่มีถิ่นที่อยู่ร่วมกันถาวร ต้องยึดตามกฏหมายของเวียดนาม ส่วนในเรื่องของสินสมรสที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ก็ให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งถิ่นที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่
กฎหมายการสมรสและครอบครัวปี 2014 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2015 |
นอกจากนี้ ตามมาตรา 81 ของกฎหมายการสมรสและครอบครัวปี 2014 ภายหลังการหย่าร้าง บิดามารดายังคงมีสิทธิและหน้าที่ดูแลและให้การศึกษาแก่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้ตามกฎหมายการสมรสและครอบครัวปี 2014 ประมวลกฎหมายแพ่งและกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยให้สามีภภรรยาทำความตกลงกันเป็นหนังสือว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรคนใด ถ้ามิได้ตกลงกันหรือตกลงกันไม่ได้ สามารถขอให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด โดยคํานึงถึงความสุขและประโยชน์ของเด็กเป็นสําคัญ หากบุตรมีอายุ 7 ปีขึ้นไป จะต้องถามความสมัครใจของบุตรว่า อยากอยู่กับบิดาหรือมารดา ในกรณีที่บุตรมีอายุต่ำกว่า 36 เดือน ศาลจะตัดสินให้มารดาเป็นผู้เลี้ยงดู นอกจากนี้ ก็ยังมีมาตรา 51 มาตรา 54 และมาตรา 56 ของกฎหมายการสมรสและครอบครัวปี 2014 ซึ่งเราจะส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปให้ทางอีเมลและหวังว่า ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และถ้าหากคุณศรายุทธิ์ วุฒิสาร ต้องการข้อมูลเพิ่มอีก ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมมาได้
ความงามของที่ราบสูงหินด่งวัน (toquoc.vn) |
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณผู้ฟังหลายท่านได้ให้ความสนใจต่อข่าว “การรำลึกครบรอบ 190 ปีวันคล้ายวันเกิดของนาย Jean Baptiste Louis Pierre ผู้ก่อตั้งสวนพฤกษศาสตร์โฮจิมินห์” “การเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง” “เทศกาล จื๋อด่งตื๋อ-เตียนยุง งานเทศกาลแห่งความรัก” “จังหวัด ห่ายาง รับรางวัลอุทยานธรณีโลกที่ราบสูงหิน ด่งวัน จากยูเนสโก ครั้งที่ 3” และ “เวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 1 ล้านคนใน 4 เดือนติดต่อกัน” โดยคุณ Poonpalung Tuntipong อาจารย์เกษม ทั่งทอง คุณ Anan Rassameefuang และคุณ Chalinan Sip ได้แสดงความยินดีต่อประเทศเวียดนาม สมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า จะมีโอกาสเดินทางไปเยือนและศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมของเวียดนาม
หอเคววันก๊ากหรือหออาศรมอักษรศาสตร์ในเขตโบราณสถานวันเมี้ยว-ก๊วกตื๋อย้าม |
คุณ Phansone จากแขวงหัวพัน ประเทศลาวบอกว่าอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์กลางคืนในกรุงฮานอย ในเวลาที่ผ่านมา หน่วยงานการท่องเที่ยวกรุงฮานอยได้ร่วมกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่ๆเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจกลางคืน โดยเฉพาะการเปิดถนนคนเดินและตลาดกลางคืนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทัวร์กลางคืนเพื่อศึกษาค้นคว้าเรือนจำหวาหล่อ โบราณสถานหว่างแถ่งทังลอง พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมฮานอย แหล่งร้านอาหารกลางคืนที่ถนนด๋าวหงอก-หงูสา ถนนคนเดินบริเวณทะเลสาบหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ เป็นต้น ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ศูนย์วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์วันเมี้ยว-ก๊วกตื๋อย้ามในกรุงฮานอยได้เปิดให้บริการทัวร์กลางคืนเพื่อศึกษาค้นคว้าวันเมี้ยว-ก๊วกตื๋อย้าม ที่มีชื่อว่า “ความดีเลิศแห่งการศึกษา” เป็นการนำร่อง ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆที่แตกต่างจากการมาเที่ยวในตอนกลางวัน โดยมีการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างและเทคโนโลยี 3D Mapping ส่วนที่ศูนย์วัฒนธรรมและศิลปะ ณ ถนนหว่างบ่วมในเขตหว่านเกี๊ยม ได้มีการเปิดกิจกรรม “Ha Noi Night - Emotions' Touchpoint” โดยมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมวัฒนธรรม เช่น การภาพพื้นเมืองห่างจ๊ง การร้องเพลงทำนองกาจู่ แจ่ว เจ่าวัน การแสดงต่วง หรือ อุปรากรและหมู่บ้านทำเครื่องจักสาน เป็นต้น...