การตรวจหาเชื้อในเวียดนาม
|
คุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่ม ได้เขียนว่า“ประชากรโลกกำลังต่อสู้กับศัตรูที่มองไม่เห็น สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังลุกลามไปยังทั้งโลก ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มทวีขึ้นมหาศาล ในขณะที่จำนวนผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายยังมีน้อยอยู่ ประเทศต่างๆก็เพียงพยายามหาวิธีป้องกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดกันอย่างเข้มงวดจากเบาไปหาหนัก ผู้คนพากันหวาดระแวงว่าตนเองจะติดโรคนี้ด้วยหรือไม่ แล้วก็พากันติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชิดอยู่กับบ้าน บุคคลสำคัญระดับสูง ผู้นำประเทศ หรือแม้แต่คนธรรมดาต่างก็ติดเชื้อดังกล่าวกันมากมายโดยถ้วนหน้า มาตรการขอให้อยู่กับบ้าน งดการเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยง หรือแม้แต่การเว้นระยะห่างทางสังคมหรือ Social Distancing ถูกนำมาใช้ ผู้คนต่างประสบความทุกข์ยากเดือดร้อนไปตามๆกัน ทำเอาชีวิตช่วงนี้เครียดและหมดความสุขไปเยอะ และดูเหมือนว่าเรากำลังสร้างความทุกข์มาหลอกหลอนตนเองไปด้วย ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันและเราจะชนะในที่สุด We will survive and we will win at last”
ส่วนคุณ เก๋ ชลินันท์และคุณ สุริยันต์ สุรเกรียงไกรต่างได้คอมเมนต์ว่า “ยินดีด้วยครับ”สำหรับข่าว “เวียดนามไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ส่วนผู้ป่วยหนักมีอาการดีขึ้น”
คุณแม่วีรชนอายุ 95 ปี โงถิกวิ๊ด ตัดเย็บหน้ากากผ้าทุกวันเพื่อสนับสนุนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด |
ในเวลาที่ผ่านมาด้วยจิตใจ “ต่อสู้กับโรคโควิด -19 เหมือนการต่อสู้กับศัตรู” เวียดนามกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อ “ไม่ปล่อยให้ใครอยู่ข้างหลัง” โดยผู้ป่วยทุกคนต่างได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ในทุกสภาวการณ์ ประชานเวียดนามต่างแสดงจิตใจแห่งความช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อฟันฝ่าอุปสรรค ในขณะที่แพทย์กำลังพยายามรักษาผู้ป่วย ประชาชนเวียดนามยังสนับสนุนไม่ใช้หน้ากากอนามัยเกรดสำหรับใช้ในโรงพยาบาลเพื่อสนับสนุนแพทย์ที่ต้องรักาผู้ติดเชื้อเนื่องจากแหล่งหน้ากากนั้นมีจำกัด ตลอดจนได้บริจาคชุด PPE อุปกรณ์การแพทย์และยารักษาโรคเพื่อการรักษาผู้ป่วย รวมทั้งยังมีการนำอาหาร กาแฟ น้ำผลไม้ นม ไปมอบให้แก่แพทย์และทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยและผู้ที่ต้องอยู่ในเขตกักกันโรคต่างๆ นอกจากนี้ โรงแรมต่าง ๆ ก็เปิดรับแพทย์ที่ต้องกักตัว เช่น แพทย์ในโรงพยาบาลแบกมายและเจ้าหน้าที่ทางการทูตที่มาจากต่างประเทศเข้าพักฟรี อีกทั้งยังมีเรื่องราวที่ฟังแล้วซึ้งใจน้ำตาคลอเบ้าหลายเรื่อง เช่น คุณแม่วีรชนอายุ 95 ปี โงถิกวิ๊ด อาศัยอยู่ที่เขตก่อเวิบ นครโฮจิมินห์ได้ตัดเย็บหน้ากากผ้าทุกวันเพื่อสนับสนุนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด และในหลายๆ ที่ก็มีการแจกอาหารฟรีให้แก่ผู้ยากจนในกรุงฮานอยหรือที่นครโฮจิมินห์ก็มีบริษัทที่คิดค้นปรับปรุงตู้เอทีเอ็มให้เป็นตู้แจกข้าวสารฟรีแบบอัตโนมัติ…แม้กระทั้งเด็กๆ และผู้สูงอายุก็ช่วยกันบริจาคเงินและอาหาร ซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความรวมใจเป็นหนึ่งของประชาชนเวียดนามในการต่อสู้กับโรคโควิด – 19 การช่วยเหลือจุนเจือกันของคนเวียดนามไม่เพียงแต่มีขึ้นในประเทศเวียดนามเท่านั้น แต่ในต่างประเทศ ชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศต่างๆ เช่น สาธารณรัฐเช็กและลาวก็ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคม ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บหน้ากากผ้าแจกฟรีให้แก่คนท้องถิ่น โดยเฉพาะที่ประเทศไทย สมาคมชาวเวียดนามที่อาศัยในจังหวัดอุดรธานีได้ทำหน้ากาก Face Shield ประมาณ1,500 อันมอบให้แก่ทางการและโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนชมรมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามมอบแอลกฮอล์ 99.50% จำนวน 4,000 ลิตร มูลค่า 152,000บาทให้แก่ทางการเพื่อรับมือโรคโควิด-19 ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ได้รับคำชื่นชมจากรัฐบาลและประชาชนประเทศต่างๆ รวมทั้งแฟนรายการภาคภาษาไทยของสถานีวิทยุเวียดนาม
ของที่ระลึกต่างๆของเรา
|
หลังจากที่เราประกาศรายชื่อผู้ชนะมินิเกมส์ไตรมาสแรกของปี 2020 คุณ Rutchapon Ploythet ซึ่งเป็นผู้ชนะการแข่งขันได้บอกว่า ได้เปลี่ยนที่อยู่เนื่องจากกำลังศึกษาในนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งทางเราได้ส่งของรางวัลไปให้ทางไปรษณีย์แล้วแต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ของรางวัลอาจถึงช้ากว่าปรกติ แต่เราก็หวังว่า ของรางวัลที่เราส่งไปให้จะทำให้มีความผูกพันใกล้ชิดกับประเทศเวียดนามที่สวยงามมากขึ้นครับ
สำหรับคำตอบของมินิเกมส์ไตรมาสแรกนี้ อาจารย์เกษม ทั่งทอง ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของรายการได้ถามว่า “สวัสดีครับภาคภาษาไทยวิทยุเวียดนาม ขอแสดงความยินกับคุณ Rutchapon Ploythet ที่ตอบคำถามมินิเกมส์ไตรมาสแรกได้ถูกต้องเพียงท่านเดียว แต่ผมสงสัยอยู่นิดหนึ่งว่าการนับเป็นประธานอาเซียนปี1998นั้นเป็นทางการหรือยัง เพราะว่ากฎบัตรอาเซียนว่าด้วยประธานอาเซียนลงนามเมื่อปี2008ที่กำหนดให้ประธานอาเซียนหมุนเวียนกันตั้งแต่1มกราคมถึง31ธันวาคมแต่ละปีเรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษเริ่มจากปี2008และ2009ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน เนื่องจากปี2008เหลือไม่กี่เดือนจะหมดปีจึงให้ปี2009เริ่มนับใหม่ ต่อจากประเทศไทยปี2010จึงเป็นประเทศเวียดนาม ส่วนปี1998นั้นประเทศเวียดนามได้รับเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่3ประเทศที่สมัครปี1997ประกอบด้วยสปป.ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา ดังนั้นปี1998ประเทศเวียดนามไม่ใช่ประธานอาเซียนอย่างเป็นทางการเพราะว่าปี2008จึงมีกฎบัตรอาเซียนว่าด้วยประธานอาเซียน วาระ1ปี”
จริงๆคือในปี 1998 อาเซียนยังไม่มีกฎบัตร จึงไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับประธานอาเซียนครับ แต่ว่าในความเป็นจริงในปีนั้น เวียดนามได้ปฏิบัติหน้าที่ของประธานอาเซียนในฐานะประเทศเจ้าภาพ ดังนั้น กระทรวงและหน่วยงานต่างๆของเวียดนามจึงถือปีนั้นเป็นปีที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนครับ นอกจากนี้ข้อมูลอย่างเป็นทางการก็ระบุให้ปี 1992 เป็นปีที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน หวังว่า คำอธิบายนี้จะช่วยให้อาจารย์เข้าใจมากขึ้น ถ้าหากอาจารย์และผู้ฟังท่านใดยังมีข้อสงสัยก็สามารถถามเราได้
|
คอมเมนท์ในข่าว “สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียเลือกกองกลาง เหงียนกวางหาย เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19” คุณ Tatchawin Sangsappan บอกว่า “น่าจะเป็นผู้เล่นเวียดนามอีกหนึ่งคนที่จะได้ไปค้าแข้งต่างประเทศ เสียดายที่ข้อเสนออาจยังไม่โดนใจฮานอย เอฟซี และมาติดโควิดเสียก่อน ไม่งั้นปีนี้อาจมีข้อเสนอจากสโมสรต่างประเทศมาเพิ่ม” คุณ Tatchawin Sangsappan ยังบอกว่า เขาชอบนักเตะMac Hong Quan ซึ่งเป็นนักเตะเชื้อสายเวียดนามที่อาศัยอยู่ในประเทศสาธารณรัฐเช็ก เกิดเมื่อปี 1992 และตอนนี้เป็นนักเตะของสโมสรถ่านหินกว๋างนิงห์ เมื่อ 5-6 ปีก่อนpeak มาก แต่ผลงานมา drop ตอน Park Hang Seo เป็นโค้ช
ท่านผู้ฟังครับ ก่อนที่จะสิ้นสุดรายการตอบจดหมายท่านผู้ฟัง เราขอแจ้งข่าวการปรับปรุงผังรายการสำหรับรายการวันอาทิตย์อีกครั้งนะครับ ซึ่งนับตั้งแต่เดือนเมษายนนี้รายการวันอาทิตย์ที่ออกอากาศทางวิทยุจะจัดในลักษณะเสนอเฉพาะสารคดีและบทความที่มีเนื้อหาแนะนำเกี่ยวกับเวียดนามรวมทั้งเพลงเวียดนามที่เพราะๆ ตลอดจนทุกๆสองสัปดาห์จะมีรายการเพลงตามหัวข้อต่างๆโดยจะไม่มีภาคข่าวเหมือนที่เคยจัด แต่คุณผู้ฟังยังคงสามารถดูข่าวของเราบนเว็บไซต์ตามที่อยู่ www.vovworld.vnได้เหมือนเดิม...