อุตสาหกรรมการเกษตรพยายามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อให้การส่งออกบรรลุอัตราการขยายตัวในระดับสูง (Photo vinanet.vn) |
ในช่วงนี้และในช่วงที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อทุกภาคส่วน แต่การผลิตและการส่งออกสินค้าของบริษัทส่งออกธัญญาหารด่งยาวจำกัดยังคงดำเนินไปตามปกติ โดยรถบรรทุกสินค้าเข้าออกบริษัททุกวันเพื่อส่งสินค้าไปยังจุดทำระเบียบศุลกากรเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก จากความได้เปรียบคือการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ทางบริษัทมักจะเลือกทำธุรกรรมกับบริษัทที่มีเงื่อนไขอย่างเข้มงวดและมีเสถียรภาพ นาย เหงียนวันแถ่ง รองผู้อำนวยการบริษัทฯ เผยว่า “ ทางบริษัทฯ มีตลาดทั้งภายในและต่างประเทศที่มีเสถียรภาพ ถึงแม้เป็นตลาดที่มีเงื่อนไขเข้มงวดแต่ก็มีการนำเข้าสินค้าเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เราถือตลาดเหล่านี้เป็นเป้าหมายเพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์อย่างมีเสถียรภาพ”
ในเวลาที่ผ่านมา สินค้าการเกษตรที่ส่งออกไปยังตลาดยุโรปสามารถใช้ความได้เปรียบต่างๆจากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – อียูหรืออีวีเอฟทีเอ เช่น กุ้งแช่แข็ง เสาวรส ผลไม้และข้าวหอม เป็นต้น สามารถส่งออกไปยังประเทศต่างๆในยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ซึ่งคิดภาษี 0 เปอร์เซ็นต์ในการส่งออกไปยังตลาดอียู
ในเขตที่ราบสูงเตยเงวียน เสาวรสแปรรูปคือสินค้าที่ได้รับความนิยมในเวลาที่ผ่านมา ซึ่งมีเสถียรภาพในการส่งออก โดยเฉพาะนับตั้งแต่ที่โรงงานผลิตเสาวรสได้รับการก่อสร้างที่อำเภอมางยาง จังหวัดยาลาย ได้แก้ไขปัญหาในการส่งออกและพัฒนาพื้นที่ปลูกเสาวรสที่เป็นวัตถุดิบให้แก่การผลิตเสาวรสแปรรูปได้อย่างมั่นคง นาง เหงียนถิถิ่ง ชาวบ้านในตำบลดั๊กยี อำเภอมางยาง จังหวัดยาลายกล่าวว่า "ในเขตที่ราบสูงเตยเหงียน เราได้เปลี่ยนมาปลูกเสาวรสแทนพืชอื่นๆ เพราะเสาวรสโตเร็วและให้ผลผลิตสูง เราปลูก 100 ต้นสามารถเก็บผลผลิตได้หลายตัน ปัจจุบันนี้ ทางบริษัทได้มาซื้อเสาวรสถึงที่ เราได้ขยายพื้นที่ปลูกเสาวรสมากขึ้น"
กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายน มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรอยู่ที่เกือบ 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับเดือนตุลาคม สิ่งที่น่าสนใจคือ ในสภาวการณ์ที่ยากลำบากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 มูลค่าสินค้าส่งออกบางรายการ เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ กุ้ง และเครื่องเฟอร์นิเจอร์ ยังคงสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นาย เหงียนก๊วกตว๋าน อธิบดีกรมแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรให้ข้อสังเกตว่า ข้อตกลงอีวีเอฟทีเอที่มีผลบังคับใช้ได้ส่งผลดีต่อการส่งออกของสินค้าเกษตรหลายรายการ ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่การส่งออกสินค้าเกษตรยังมีศักยภาพสูง แต่เพื่อยกระดับสถานะของสินค้าเกษตรเวียดนามในตลาดโลก จำเป็นต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างทางการท้องถิ่นกับสถานประกอบการและเกษตรกร "เราสามารถเปลี่ยนพันธุ์พืชให้มีความเหมาะสมเพื่อสร้างมูลค่าสูงให้แก่สินค้าการเกษตรของเวียดนาม โดยเฉพาะแก้ไขปัญหาการขายสินค้าให้แก่เกษตรกร นี่คือเรื่องที่สำคัญเพื่อสามารถบรรลุสองเป้าหมายคือยกระดับคุณภาพของสินค้าควบคู่กับการหาตลาดจำหน่าย"
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การส่งออกสินค้าเกษตรประสบผลที่น่ายินดีมากขึ้นในปี 2021 อุตสาหกรรมการเกษตรได้ทำการปฏิรูปโครงสร้างอย่างเข้มแข็งต่อไป โดยในเวลาข้างหน้า จะใช้มาตรการแก้ไขต่างๆ เช่น ปฏิบัตินโยบายดึงดูดการลงทุนของสถานประกอบการในการแปรรูปและแปรรูปในเชิงลึก ผลักดันการปฏิบัติกลไกและนโยบายสำคัญๆเพื่อส่งเสริมสถานประกอบการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูป เก็บรักษาผลิตภัณฑ์การเกษตร ผลักดันการเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิต - การแปรรูป- การจำหน่าย โดยเฉพาะกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้จัดทำและปรับปรุง "ยุทธศาสตร์พัฒนาการประยุกต์ใช้เครื่องจักรและอุตสาหกรรมในการผลิตสินค้าเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำถึงปี 2030" และ "โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปผักช่วงปี 2021-2030"./.