สถานประกอบการเวียดนามหาทางประกอบธุรกิจแบบใหม่ผ่านระบบอี – คอมเมิร์ซ

Chia sẻ
(VOVWORLD) - อี – คอมเมิร์ซกำลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและกลายเป็นแนวโน้มที่โดดเด่นของการค้าโลกในหลายปีที่ผ่านมา ที่เวียดนาม นับวันมีสถานประกอบการใช้ระบบอี – คอมเมิร์ซเพื่อประกอบธุรกิจมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในตลาดภายในประเทศเท่านั้น แต่สถานประกอบการเหล่านี้ยังเปลี่ยนแปลงใหม่และเข้าถึงความนิยมของผู้บริโภคเพื่อวางยุทธศาสตร์การประกอบธุรกิจให้เหมาะสม ช่วยให้สินค้าเวียดนามเจาะตลาดโลกผ่านระบบอี – คอมเมิร์ซ
สถานประกอบการเวียดนามหาทางประกอบธุรกิจแบบใหม่ผ่านระบบอี – คอมเมิร์ซ - ảnh 1สถานประกอบการเวียดนามหาทางประกอบธุรกิจแบบใหม่ผ่านระบบอี – คอมเมิร์ซ (BNEWS/VNA)

กรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัล สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาษิชน์เวียดนามรายงานว่า ระบบอี – คอมเมิร์ซของเวียดนามกำลังผ่านยุคแห่งการพัฒนาที่เข้มแข็งและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจดิจทัลของเวียดนาม โดยการขายปลีกผ่านอี – คอมเมิร์ซมีการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 20 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ช่วยให้เวียดนามติดท็อปประเทศที่มีอัตราการขยายตัวอี – คอมเมิร์ซรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคและโลก

ในสภาวการณ์ที่เวียดนามนับวันผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึกมากขึ้น พร้อมกับโอกาสจากข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ๆ การค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนถือเป็นมาตรการที่ดีที่ช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามขยายตลาดส่งออก นาย เหงียนวันแถ่ง ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาอี – คอมเมิร์ซสังกัดกรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัล เผยว่า

“การค้าอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม โดยเฉพาะอี – คอมเมิร์ซข้ามพรมแดนคือเวทีที่เอื้อประโยชน์มากมาย สอดคล้องแนวโน้มการพัฒนาทั่วโลก เราต้องผลักดันให้มีสินค้าเวียดนามอีกหลายรายการได้ส่งออกผ่านระบบนี้ ซึ่งอี – คอมเมิร์ซจะช่วยให้ผู้ผลิต โดยเฉพาะผู้ผลิตรายย่อยสามารถส่งออกได้โดยตรง”

สถานประกอบการเวียดนามหาทางประกอบธุรกิจแบบใหม่ผ่านระบบอี – คอมเมิร์ซ - ảnh 2นาย เหงียนวันแถ่ง ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาอี – คอมเมิร์ซสังกัดกรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัล (VNA)

ตามข้อมูลสถิติที่ประกาศในการประชุม “อี – คอมเมิร์ซข้ามพรมแดนปี 2024 ความดีเลิศของสินค้าเวียดนาม เจาะตลาดต่างๆ ทั่วโลก” ที่จัดโดย Amazon Global Selling เวียดนามหรือ AGS VN และกรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัลเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้ระบุว่า ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา คือตั้งแต่ปี 2019- 2023 สถานประกอบการเวียดนามนับวันขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศมากขึ้น โดยปริมาณสินค้าที่ขายผ่าน Amazon ได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ควบคู่กันนั้น จำนวนสถานประกอบการเวียดนามที่ได้กำไรมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีผ่าน Amazon ได้เพิ่มขึ้น 10 เท่าและมีสถานประกอบการเวียดนามราว 1,500 แห่งจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดโลกผ่านระบบอี – คอมเมิร์ซข้ามพรมแดน

นาย เจิ่นซวนถวี ผู้อำนวยการ Amazon Global Selling เวียดนามที่ดูแลภาคใต้เผยว่า มีสถานประกอบการหลายแห่งได้ขอจำหน่ายสินค้าผ่าน Amazon และนับวันมีสถานประกอบการเวียดนามเข้าร่วมมากขึ้น

“ปัจจุบันนี้ มีสถานประกอบการหลายแห่งลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าเพื่อเข้าร่วมระบบ Amazon เพื่อหาโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดใหญ่ๆ เช่น สหรัฐและยุโรป ผ่านระบบนี้ สินค้าของสถานประกอบการเวียดนามได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค และเรามีความเชื่อมั่นที่เสนอสินค้าแบรนด์เวียดนามต่อตลาดโลกและก็ประสบความสำเร็จได้”

ส่วนนาย ฝุ่งก๊วกเหมิน รองประธานสมาคมสินค้าหัตถกรรมและแปรรูปไม้ Hawa นับวันมีสถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจด้านไม้สามารถตระหนักได้ดีเกี่ยวกับประโยชน์จากอี – คอมเมิร์ซข้ามพรมแดน

“อี คอมเมิร์ซข้ามพรมแดนกระตุ้นให้สถานประกอบการสร้างสรรค์แบนด์และการออกแบบ โดยมีหลายแห่งได้เปลี่ยนตามและทำการโปรโมชั่นเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์”

เมื่อกล่าวถึงประสบการณ์ในการค้าขายผ่าน Amazon นาย ฟานวันเหียว ผู้อำนวยการบริษัท CVI Pharma ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้ส่งออกไปยัง 22 ประเทศผ่าน Amazon ยืนยันว่า สถานประกอบการควรเน้นถึงทักษะหลักเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และให้บริการที่มีโอกาสขีดความสามารถในการแข่งขันในระบบอี คอมเมิร์ซได้

ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดและลูกค้าบนระบบอี คอมเมิร์ซ มียุทธศาสตร์สร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าให้ขีดความสามารถในการแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่นๆ ถือเป็นมาตรการช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามสามารถครองส่วนแบ่งตลาดโลกได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามรายงานล่าสุด รายรับจากอี คอมเมิร์ซทั่วโลกในปี  2025 และปีต่อๆ ไปจะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อไป ซึ่งถือเป็นโอกาสให้สถานประกอบการเวียดนามก้าวรุดหน้าและสร้างสถานะบนตลาดโลกต่อไป.

คำติชม