บนแผนที่เวียดนาม อ่าวบั๊กเวินฟองเป็นอ่าวที่มีขนาดใหญ่และลึก ไม่มีคลื่นลมแรง มีพื้นที่ทั้งบกและน้ำประมาณ 46,000 เฮกตาร์ ระดับนำลึก 20-25 เมตร มีศักยภาพพัฒนาเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ นอกจากนั้น เวินฟองยังคงเป็นเขตที่มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่งของเวียดนาม ที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวด้วย จากจุดแข็งดังกล่าวเมื่อปี 2006 รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจเวินฟองด้วยพื้นที่ 150,000 เฮกตาร์ โดยเป็นพื้นที่บนบก 70,000 เฮกตาร์ ส่วนที่เหลือคือพื้นที่ผิวน้ำ ตั้งอยู่ในตำบลเมืองนิงห์หว่าและอำเภอหวานนิงห์ ทางทิศเหนือของจังหวัดแค้งหว่า นี่เป็นเขตเศรษฐกิจแบบผสม โดยมีท่าเรือขนส่งสินค้านานาชาติ โรงกลั่นน้ำมัน จุดขนถ่ายน้ำมัน การท่องเที่ยว – การบริการ อุตสาหกรรม การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและหน่วยงานเศรษฐกิจอื่นๆ ปัจจุบัน เวินฟองสามารถดึงดูดโครงการลงทุน 145 โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียน 1.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและเงินดำเนินงานอยู่ที่เกือบ 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากศักยภาพดังกล่าว รัฐบาลได้ตัดสินใจเลือกพัฒนาเวินฟองเป็นเขตราชการ – เศรษฐกิจพิเศษหรือเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยตั้งเป้าไว้ว่าจะกลายเป็นปัจจัยหลักในการสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่เศรษฐกิจของภาคกลางตอนใต้ นายเลดึ๊กวิงห์ ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดแค้งหว่าเผยว่า “บั๊กเวินฟองมีความได้เปรียบต่างๆ เช่น เป็นเขตอ่าวที่ไม่มีลมแรง มีสภาพอากาศดีและทิวทัศน์สวยงาม ทำให้นักลงทุนสนใจเป็นจำนวนมาก ทางจังหวัดกำลังก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น สำหรับการรักษาความมั่นคงของประเทศ ก็ต้องมีข้อกำหนดพิเศษเพราะอ่าวนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์”
อย่างไรก็ตาม พลังขับเคลื่อนในการขยายตัวของเวินฟองมาจากการเป็นท่าเรือน้ำลึก เศรษฐกิจทางทะเลและเส้นทางการเดินเรือระหว่างประเทศ โดยทางการจังหวัดแค้งหว่าได้กำหนดแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ด้วย 4 แขนง คือ ท่าเรือ - การบริการโลจิสติก การค้า – การให้บริการการเงินระหว่างประเทศ ศูนย์บริการ – การท่องเที่ยวบันเทิงระดับ 5 ดาวและคาสิโนระดับโลก พัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีขั้นสูง สาธารณสุข การศึกษาและการให้บริการด้านลิขสิทธิ์ทางปัญญา
ถึงปลายปี 2017 ร่างกฎหมายเขตราชการ-เศรษฐกิจพิเศษได้ถูกยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติอนุมัติ โดยบั๊กเวินฟองได้รับเลือกเป็น 1 ใน 3 เขตที่จะได้รับการพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และผู้แทนสภาแห่งชาติส่วนใหญ่ได้เห็นพ้องที่จะมอบอำนาจและระเบียบการในระดับที่สูงกว่าให้แก่เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้ นายเหงียนสีด่ง ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดกว๋างจิให้ข้อสังเกตว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆจะกลายเป็นหัวเรือแห่งการพัฒนาและขยายผล ดังนั้นจำเป็นต้องจัดทำกฎหมายพิเศษให้เหมาะสมเพื่อเป็นพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้ “กฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อสร้างก้าวกระโดด เป็นไฮไลท์และเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่เศรษฐกิจ ในหลายปีที่ผ่านมา การปฏิบัติงานของเขตเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพในเบื้องต้นแล้ว แต่ถ้าหากเรียกว่าเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็ต้องมีนโยบายที่ก้าวกระโดดและมอบอำนาจที่เข้มแข็งให้แก่เขตเศรษฐกิจเหล่านี้เพื่อสามารถดึงดูดการลงทุนมากขึ้น”
นายเลซวนเทิน หัวหน้าคณะผู้แทนสภาแห่งชาติและรองประธานสภาประชาชนจังหวัดแค้งหว่าได้เผยว่า เวียดนามตามหลังประเทศในภูมิภาคด้านการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะพลาดโอกาสต่างๆ โดยจังหวัดแค้งหว่ารอโอกาสนี้นานแล้วเพื่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษบั๊กเวินฟอง ดังนั้น จากการพิจาณาจุดแข็งและมอบระเบียบและนโยบายที่เป็นก้าวกระโดดให้แก่เขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ หวังว่าในอนาคต บั๊กเวินฟองจะเป็นจุดนัดพบของนักลงทุนรายใหญ่ทั้งภายในและต่างประเทศ.