ลดการพึ่งพาการนำเข้า– โอกาสจากข้อตกลงการค้าต่างๆ

Việt Hà- Tô Tuấn
Chia sẻ
(VOVworld) –   เวียดนามกำลังเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีกับหุ้นส่วนใหญ่ๆ เช่นข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีที่กำลังอยู่ในโค้งสุดท้าย ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม– สหภาพยุโรปหรืออียูที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นการเจรจาในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นโอกาสใหญ่เพื่อให้เวียดนามสร้างความหลากหลายของตลาดส่งออกและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดแห่งเดียว

(VOVworld) –   เวียดนามกำลังเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีกับหุ้นส่วนใหญ่ๆ เช่นข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีที่กำลังอยู่ในโค้งสุดท้าย ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม– สหภาพยุโรปหรืออียูที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นการเจรจาในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นโอกาสใหญ่เพื่อให้เวียดนามสร้างความหลากหลายของตลาดส่งออกและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดแห่งเดียว

ลดการพึ่งพาการนำเข้า– โอกาสจากข้อตกลงการค้าต่างๆ - ảnh 1
สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดหลังจากที่ข้อตกลงทีพีพีได้รับการลงนาม(Photo:CAFIN )

คาดว่า ในปลายปีนี้ การเจรจาข้อตกลงทีพีพีจะเสร็จสิ้นลงหลังจากที่ทำการเจรจา๒๐รอบ ตามความในข้อตกลงฉบับนี้ บรรดาประเทศสมาชิกจะยกเลิกภาษีนำเข้าร้อยละ๙๐ทันทีเมื่อข้อตกลงมีผลบังคับใช้และจะค่อยๆลดต่อไปให้ถึง๑๐๐% ซึ่งบรรดาประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมข้อตกลงทีพีพีก็มีอัตราการเจริญเติบโตจีดีพีรวมกันร้อยละ๔๐ของโลกและมีมูลค่าการส่งออกร้อยละ๓๐ของโลก ดังนั้น  ถ้าข้อตกลงนี้ได้รับการลงนาม สินค้าเวียดนามจะมีโอกาสเจาะตลาดใหญ่ๆ เช่น สหรัฐ แคนาดา เม็กซิโกและญี่ปุ่น

คาดว่า สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดหลังจากที่ข้อตกลงทีพีพีได้รับการลงนามโดยมีผลิตภัณฑ์ภัณฑ์๑พันรายการที่ส่งออกไปยังสหรัฐซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามจะค่อยๆยกเลิกภาษีถึง0%เมื่อเทียบกับปัจจุบันคือร้อยละ๑๘ การขยายตัวด้านการส่งออกสินค้าประเภทนี้จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละ๑๕ถึงร้อยละ๒๐ต่อปี และจะอยู่ที่กว่า๕หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี๒๐๒๕ อย่างไรก็ดี หน่วยงานนี้ต้องปฏิบัติตามหลักการต่างๆ เช่น แหล่งผลิตสินค้าและใช้วัตถุดิบภายในกลุ่มทีพีพี นางดั่งเฟืองยุง เลขาธิการสมาพันธ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามกล่าวว่า เพื่อโอกาสขยายและสร้างความหลากหลายของตลาดส่งออก สถานประกอบการด้านนี้ต้องปรับปรุง ลงทุนผลิตวัตถุดิบ สร้างการผลิตแบบครบวงจรตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตด้าย การทอ ย้อมสี ตัดเย็บ เพิ่มการใช้วัตถุดิบภายในประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น“ความท้าทายคือ ต้องผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้ายของเวียดนามซึ่งสิ่งนี้ก็ทำได้ไม่ง่ายนักในประเทศสมาชิกทีพีพี ดังนั้น พวกเราต้องผลักดันการผลิตวัตถุดิบภายในประเทศ ทางสมาพันธ์กำลังเตรียมฝึกอบรม และเปลี่ยนจากการรับว่าจ้างมาเป็นการผลิตแบบครบวงจรซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์”

ในปีนี้ เวียดนามยังเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับอียู สาธารณรัฐเกาหลีและสหภาพศุลกากรรัสเซีย–เบลารุส–คาซักสถาน จากสิทธิพิเศษด้านภาษีผ่านข้อตกลงการค้าเหล่านี้จะทำให้เวียดนามมีโอกาสมากมายเพื่อสร้างความหลากหลายของตลาดนำเข้าส่งออกโดยเฉพาะ สินค้าเกษตรพร้อมทั้งมีตลาดที่มีศักยภาพอื่นๆอีก อย่างไรก็ดี นายเจิ่นหิวฮวี่งประธานศูนย์อนุญาโตตุลาการนานาชาติกล่าวว่า เพื่อตอบสนองความต้องการจากข้อตกลงเหล่านี้ สถานประกอบการเวียดนามต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อสามารถผสมผสานเข้ากับภูมิภาคและโลกได้“ สถานประกอบการเวียดนามต้องปรับปรุง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อสามารถเข้าร่วมตลาดโลกได้โดยไม่อยู่อันดับสุดท้ายซึ่งเป็นโอกาสและก็เป็นความท้าทายเพื่อให้สถานประกอบการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงที่จะลงนามอย่างมีประสิทธิภาพ”

การส่งออกของเวียดนามจะได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมข้อตกลงต่างๆดังกล่าวนอกจากสิทธิพิเศษด้านภาษี อุปกรณ์ เครื่องมือ เทคโนโลยี วัตถุดิบและสินค้าบริโภคจากประเทศหุ้นส่วนที่เข้าร่วมข้อตกลง โดยเฉพาะ จากประเทศที่มีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย สินค้านำเข้าของเวียดนามก็จะมีราคาที่เหมาะสม ในทางเป็นจริง เฉพาะมูลค่าการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรจากตลาดอียูเมื่อปี๒๐๐๕อยู่ที่๒.๖พันล้านเหรียญสหรัฐมาปี๒๐๑๐เพิ่มขึ้นเป็น๗.๖พันล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้น การลดภาษีนำเข้าจะช่วยให้เวียดนามสามารถนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นแต่จ่ายน้อยลง เวียดนามกำลังเจรจาอย่างกระตือรือร้นเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าที่เป็นประโยชน์แก่การขยายตลาดนำเข้าส่งออก และเพื่อใช้โอกาสนี้ให้ดี นายหวูฮวีหว่างรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์กล่าวว่า“แนวทางของรัฐบาลคือ ขยายตลาดนำเข้าและส่งออกใหม่ๆเพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งพาตลาดแห่งเดียว ผลประโยชน์จากการเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างคือเปิดตลาดสินค้าและอำนวยความสะดวกให้สินค้าที่เป็นจุดแข็งของเวียดนาม เช่น สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนังรองเท้า และผลิตภัณฑ์เกษตรสามารถเจาะตลาดที่มีศักยภาพ รัฐบาลจะอำนวยความสะดวกในด้านระเบียบและนโยบายให้แก่การผลิตผลิตภัณฑ์เกษตรที่มีมูลค่าสูงและสามารถการส่งออกได้เพื่อให้การส่งออกมีเสถียรภาพและยั่งยืน”

เพื่อลงนามในข้อตกลงทีพีพีหรือเอฟทีเอเวียดนาม– อียู เวียดนาม–สหภาพศุลกากรรัสเซีย– เบลารุส–คาซักสถาน เวียดนามกำลังวางโครงการส่งเสริมที่เป็นรูปธรรมสำหรับแต่ละแขนงสินค้า วางแผนพัฒนาเขตวัตถุดิบ และพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตประกอบซึ่งทั้งนี้เพื่อไม่พลาดโอกาสทองจากข้อตกลงต่างๆ รัฐบาลก็จะประกาศใช้นโยบายช่วยเหลือสถานประกอบการสิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนังรองเท้า และเกษตรโดยเร็วเพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและศักยภาพอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน./.

คำติชม