(VOVworld) - ปี 2017 เป็นปีที่มีความหมายสำคัญในการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะปี 2016 – 2020 ซึ่งเพื่อบรรลุอัตราการขยายตัวจีดีพีที่ร้อยละ 6.7 ที่รัฐสภาได้วางไว้ ต้องมีมาตรการที่เร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเวลาที่จะถึง
ฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อบรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจปี 2017
|
ถึงแม้สถานการณ์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ได้ประสบกับความยากลำบากต่างๆแต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจเวียดนามยังมีสัญญาณที่สดใส โดยเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอใน 3 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ซึ่งตํ่ากว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกบรรลุ 4 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ส่วนภาคการเกษตรและการบริการก็เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2016 โดยอัตราการขยายตัวด้านการเกษตรอยู่ที่ร้อยละ 2 ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเวียดนามอยู่ที่ 3.2 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวจีดีพีในไตรมาสแรกของปี 2017 อยู่ที่ร้อยละ 5.1 ตํ่ากว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจเวียดนามกำลังชลอตัว จนทำให้ยากที่จะบรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจที่ร้อยละ 6.7 ตามที่รัฐสภาได้วางไว้ นายด่าวกวางทู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เผยว่า ถ้าหากมองดูการพัฒนาเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ก็จะเห็นว่า อัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของเวียดนามในไตรมาสแรกมีเสถียรภาพ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขนี้ตํ่ากว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วคือการปรับลดปริมาณการขุดเจาะปิโตรเลี่ยมตามแผนการที่วางไว้ โดยปริมาณการขุดเจาะนํ้ามันดิบของเวียดนามเมื่อปี 2016 อยู่ที่ 15 ล้านตัน ส่วนปีนี้ลดลงอยู่ที่ 12.28 ล้านตัน เฉพาะไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง 6 แสนตัน ซึ่งถ้าหากเวียดนามยังคงปริมาณการผลิตนํ้ามันดิบเหมือนเมื่อปี 2016 ก็จะทำให้อัตราการขยายตัวจีดีพีในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 5.95 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นายด่าวกวางทู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้ชี้ชัดว่า
“มาตรการดังกล่าวของรัฐบาลเวียดนามมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจมหภาคอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความสมดุลย์ของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความสมดุลย์ด้านการเงิน รวมทั้งงบประมาณแผ่นดินและการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ”
นายด่าวกวางทู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน
|
ในไตรมาสแรกของปีนี้ อัตราการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ร้อยละ 3.85 ส่วนอัตราการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างอยู่ที่ร้อยละ 4.1 ซึ่งอยู่ในระดับตํ่า ดังนั้น กระทรวง หน่วยงานและสถานประกอบการต้องพยายามมากขึ้นในไตรมาสที่เหลือของปีนี้เพื่อสามารถบรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจที่วางไว้
ในการประชุมรัฐบาลประจำเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า รัฐบาลจะชี้นำให้สามารถบรรลุอัตราการขยายตัวจีดีพีในปี 2017 ที่ร้อยละ 6.7 สำหรับมาตรการเพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว นาย มายเตี๊ยนหยุง รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาลได้เผยว่า“ก่อนอื่น ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค รวมทั้งการควบคุมดัชนีซีพีไอ ปัญหาหนี้สาธารณะ อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและดอกเบี้ยเงินกู้ นอกจากนี้ ต้องผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมประกอบและการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งรัฐบาลเวียดนามยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเน้นการผลักดันการผลิต สำหรับการขุดเจาะนํ้ามันดิบนั้น ต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ”
ตัวเลขที่น่าประทับใจของเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสแรกปีนี้คือการดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศอยู่ที่ 7.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 78 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ควบคู่กันนั้น มีสถานประกอบการใหม่ 26500 แห่ง เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนสถานประกอบการและเงินลงทุนจดทะเบียนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บรรยากาศการประกอบธุรกิจได้รับการปรับปรุง นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามได้ให้ความสนใจต่อปัญหาต่างๆ เช่น แรงงาน งานทำและสวัสดิการสังคม ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ถึง 3 และ 4 จะเพิ่มมากขึ้นเพื่อมุ่งสู่การบรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจในปี 2017 ที่รัฐสภาได้วางไว้.