จังหวัดแค้งหว่าขยายพื้นที่และต้อนรับโอกาสการพัฒนาใหม่

Le Phuong
Chia sẻ
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมปี 2025 ถือเป็นนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์เนื่องจากจังหวัดนิงถ่วนและจังหวัดแค้งหว่าได้ควบรวมเป็นจังหวัดแค้งหว่าใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วยเปิดพื้นที่การพัฒนาอันกว้างใหญ่ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เศรษฐกิจแบบหลายภาคส่วนและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย นี่คือก้าวเดินสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน และยกระดับสถานะของจังหวัดใหม่นี้ให้เป็นเสาหลักแห่งการเติบโตในภาคกลาง 
จังหวัดแค้งหว่าขยายพื้นที่และต้อนรับโอกาสการพัฒนาใหม่ - ảnh 1ภายหลังการควบรวม จังหวัดแค้งหว่าใหม่ได้กลายเป็นท้องถิ่นที่มี “สิ่งที่ดีที่สุด” ของประเทศในหลายด้าน

“เราหวังว่า ด้วยนโยบายที่ถูกต้องและความได้เปรียบภายหลังการควบรวม จังหวัดแค้งหว่าใหม่จะส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งของตนเองเพื่อพัฒนาท้องถิ่นและประเทศให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น”

“การควบรวมจังหวัดนิงถ่วนและจังหวัดแค้งหว่าจะสร้างก้าวกระโดดและการพัฒนาใหม่ในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคมและทุกด้านของชีวิต”

ภายหลังการควบรวม จังหวัดแค้งหว่าใหม่ได้กลายเป็นท้องถิ่นที่มี “สิ่งที่ดีที่สุด” ของประเทศในหลายด้านเช่น เป็นจังหวัดที่มีสนามบินมากที่สุด โดยมีสนามบิน 3 แห่ง ได้แก่ กามแรง แถ่งเซินและเจื่องอ๊า จังหวัดมีท่าเรือน้ำลึกระหว่างประเทศมากที่สุด และกระจายตัวอยู่ทั่วจังหวัด โดยท่าเรือเวินฟองตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ส่วนตอนกลางมีท่าเรือกามแรง และมีท่าเรือก่านาอยู่ทางตอนใต้ เป็นจังหวัดมีแนวชายฝั่งยาวที่สุดในประเทศ โดยมีความยาว รวม 590 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมชายหาดที่สวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น ก่านา หมุยยิง บิ่งเซิน นิงฉือ หวิงฮี บิ่งเตียว บ๋ายหย่าย ญาจาง ยกเลต ห่อนจ่งและแก่งไหญ เป็นจังหวัดมีเกาะมากที่สุดในประเทศ รวม 200 เกาะ รวมถึงหมู่เกาะเจื่องซา จังหวัดมีอ่าวหลายแห่งและมีทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของประเทศ ซึ่งอ่าวญาจางและอ่าวกามแรงติดอันต้น ๆ ของอ่าวที่สวยที่สุดในโลก อีกทั้งมีมรดก อนุสรณ์สถานและจุดชมวิวมากที่สุดในประเทศ รวมถึงมรดกโลก 5 แห่งที่ได้รับการรับรองจาก UNESCO และเป็นจังหวัดศูนย์กลางด้านพลังงานและพลังงานสะอาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

ในการประเมินศักยภาพการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดแค้งหว่าใหม่ นาย ฝ่ามมิงหยัด ประธานสมาพันธ์การท่องเที่ยวญาจาง-แค้งหว่าแสดงความเห็นว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป แค้งหว่ามีพื้นที่ใหญ่มากขึ้นสำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยว พร้อมทั้ง เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประสบการณ์ก็จะมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งได้รับการคาดหวังว่า จะสร้างแรงกระตุ้นใหม่ให้แก่ภาคเศรษฐกิจที่สำคัญนี้

“การควบรวมจังหวัดจะไม่ใช่แค่การควบรวมทั่วไปเท่านั้น หากยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก การท่องเที่ยวนิงถ่วนมีความคล้ายคลึงกับจังหวัดแค้งหว่า แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาไว้ การควบรวมนี้จะสร้างความเชื่อมโยงและความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว”

จังหวัดแค้งหว่าขยายพื้นที่และต้อนรับโอกาสการพัฒนาใหม่ - ảnh 2จังหวัดแค้งหว่ามีอ่าวหลายแห่งและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล

นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว ศักยภาพในการพัฒนาอย่างครอบคลุมของจังหวัดแค้งหว่าใหม่ยังสะท้อนให้เห็นได้จากขนาดพื้นที่ ทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์และการเชื่อมโยงระดับภูมิภาค จังหวัดแค้งหว่าเก่ามีท่าเรือที่ทันสมัย สนามบินนานาชาติ การให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบหรูหรา และโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจรมากมาย ก่อนการควบรวม จังหวัดนิงถ่วนมีความโดดเด่นในด้านพลังงานหมุนเวียน การเกษตรไฮเทค และศักยภาพของศูนย์ฐานข้อมูลระดับชาติและนานาชาติ เมื่อควบรวบเป็นจังหวัดเดียว จังหวัดแค้งหว่าใหม่จะมีพื้นที่กว่า 8,500 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจะขยายพื้นที่การพัฒนาไปทางทิศตะวันตกและใต้ ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมืองที่เชื่อมชายฝั่งในภาคกลางตอนใต้ ที่ราบสูงเตยเงวียนและภาคใต้ การควบรวมทั้ง 2 จังหวัดจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธ์ศาสตร์ เปิดโอกาสในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเติบโต ส่งเสริมศักยภาพของเขตที่เป็นพลังขับเคลื่อนแห่งการเติบโตและศักยภาพระหว่างภูมิภาคอย่างเต็มที่ นาย เจิ่นก๊วกนาม ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดแค้งหว่าใหม่ยืนยันว่า

 “การควบรวม 2 จังหวัดคือแนวทางที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และมีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาว นี่ไม่เพียงแต่เป็นเหตุการณ์ทางราชการเท่านั้น หากยังเป็นโอกาสที่หายากในการสร้างหน่วยบริหารเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และศักยภาพการพัฒนาที่ครอบคลุม”

ทางการจังหวัดแค้งหว่าเพิ่งกำหนด 3 เสาหลักแห่งการพัฒนา ได้แก่ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง พลังงานสะอาดและการท่องเที่ยวทางทะเล โดยเฉพาะ ในช่วงปี 2025-2030 จังหวัดฯตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตร้อยละ 12 ต่อปี เพิ่มรายรับเข้างบประมาณ 2 เท่าเมื่อสิ้นสุดวาระ และยอดเงินลงทุนประมาณ 3 หมื่น 8 พัน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การท่องเที่ยวทางทะเลยังคงมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยมีการลงทุนในสนามบินวันฟอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ผสมผสานกับเขตเมืองชายฝั่ง ด้วยพื้นที่อุตสาหกรรมกว่า 4,000 เฮกตาร์ จังหวัดจึงเน้นดึงดูดโครงการด้านอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เครื่องจักรกลที่มีความแม่นยำ และอุตสาหกรรมสะอาด เน้นพัฒนาพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ โดยมุ่งพัฒนาจังหวัดฯเป็นศูนย์บริการการท่องเที่ยวทางทะเลระหว่างประเทศ ศูนย์บริการอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนระหว่างภูมิภาค ศูนย์พลังงานสะอาดและพลังงานแห่งชาติ ศูนย์ข้อมูลระดับชาติและนานาชาติ และศูนย์ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อให้จังหวัดแค้งหว่าบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในเวลาที่จะถึง นาย เจิ่นก๊วกนาม เผยว่า

ทางจังหวัดจะพัฒนาอุตสาหกรรมสะอาด อุตสาหกรรมไฮเทค โลจิสติกส์ การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง และเศรษฐกิจทางทะเลอย่างรอบด้าน อุตสาหกรรมจะพัฒนาไปตามแนวทางที่ยั่งยืน โดยเน้นถึงอุตสาหกรรมแปรรูปไฮเทค อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานสีเขียว การสร้างจังหวัดแค้งหว่าให้เป็นศูนย์กลางด้านปัญญาประดิษฐ์ ศูนย์ฐานข้อมูลระดับชาติและนานาชาติ เร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการก่อตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่ง ทางจังหวัดฯจะปรับโครงสร้างรูปแบบการเติบโตด้วยแนวทางที่ชัดเจน เชิงยุทธศาสตร์และเป็นรูปธรรม เศรษฐกิจทางทะเลเป็นพื้นฐาน พัฒนาตามแนวทางอุตสาหกรรมที่หลากหลาย การท่องเที่ยวที่หลากหลายรูปแบบ ก่อสร้างศูนย์กลางการค้า ถนนสายการเงินและโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพสูง พัฒนาญาจางให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอัจฉริยะ คาบสมุทรกามแรงทางตอนเหนือและนิงจื๋อเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับชาติ และบั๊กเวินฟองเป็นเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งระดับนานาชาติ”

ด้วยศักยภาพภายหลังการควบรวม 2 จังหวัดเข้าด้วยกัน จังหวัดแค้งหว่าใหม่กำลังเร่งกระบวนการเปลี่ยนท้องถิ่นให้กลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตแห่งใหม่ของเขตชายฝั่งตอนกลางทางภาคใต้ โดยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำให้แค้งหว่าเป็นเมืองสังกัดส่วนกลางภายในปี 2030 นี่คือปัจจัยสำคัญในการสร้างความน่าดึงดูดใจของแค้งหว่าต่อนักลงทุนและนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศในเวลาที่จะถึง.

คำติชม